เมื่อช่วงเที่ยงของวันนี้ (8 ต.ค.) นางสาวจันทร์จิรา  ตั้งโกวิท  อายุ 45 ปี ผู้จัดการร้านสะดวกซื้อภายในปั้มน้ำมันแห่งหนึ่งภายในสนามบินสุวรรณภูมิ  นำหลักฐานจากภาพวงจรปิดภายในร้าน ที่บันทึกพฤติกรรมของชายหนุ่มหน้าตาดี ที่เข้าทำทีของซื้อของในร้านสะดวกซื้อ ซึ่งตั้งอยู่ภายในปั้มน้ำมัน ปตท. ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนเรียบรันเวย์สนามบินสุวรรณภูมิ ต.หนองปรือ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ 

โดยชายคนดังกล่าวอาศัยจังหวะที่พนักงานในร้านสะดวกซื้อดังกล่าวเผลอ ชายคนดังกล่าวได้ยกเอาตู้บริจาค ที่ทำจากแผ่น อาคีลิกใส่ กว้างประมาณยาวประมาณ 10 เซนติเมตรกว้างประมาณ 10 เซนติเมตรสูงประมาณ 20 เซนติเมตร ภายในมีเงินบริจาคชนิดต่าง ๆ อยู่ไม่ต่ำกว่า 1800 บาท ก่อนที่เดินออกจากร้านไป เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ ร.ต.อ. สิทธิพงศ์  ปานไทสงค์    รองสารวัตรสอบสวน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สมุทรปราการ  เพื่อช่วยติดตามจับกุมคนร้ายรายนี้

จากภาพวงจรปิด ช่วงเวลาประมาณ 06.55 น. ของวันนี้ (08 ต.ค. 60) ได้บันทึกภาพคนร้ายซึ่งเป็นชายหนุ่มอายุประมาณ 25-30 ปี ผิวขาวหน้าตาดี ไว้ผมทรงทหาร สวมเสื้อยืดคอกลมสีดำ กางเกงขากยาวสีดำ มีกระเป๋าเป้สะพายด้านหลัง  ได้เดินเข้ามาในร้านสะดวกซื้อก่อนจะทำทีเลือกดูสินค้าภายในร้านจากนั้นจึงเดินมาที่เคาเตอร์จ่ายเงิน ซึ่งมีตู้รับบริจาคของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งวางอยู่หน้าเคาเตอร์ภายในมีเงินที่ลูกค้าร่วมใส่บริจาคอยู่ประมาณ 3  พันบาท  โดยชายคนดังกล่าวได้ทำทีที่เลือกดูสินค้าซึ่งวางอยู่ที่ชั้นหน้าเคาเตอร์  และพยายามจะยกตู้บริจาคใบดังกล่าว แต่มีลูกค้ารายอื่นเดินเข้ามาในร้านพอดีชายคนดังกล่าวได้เดินถอยหลังออกมา และมีตู้รับบริจาคอีกใบวางบนโต๊ะซึ่งมีเงินอยู่ภายในประมาณ 2 พันบาท สบโอกาสชายคนดังกล่าวจึงได้ยกตู้รับบริจาคใบดังกล่าวใส่กระเป๋าสะพายสีดำที่เตรียมมาก่อนจะเดินหลบหนีออกจากร้านไป 

นางสาว จันทร์จิรา  ผู้จัดการสาว  กล่าวต่อว่า ตู้บริจาคดังกล่าวเป็นของทางมูลนิธิรามาธิบดี ฯ ที่นำมาตั้งไว้รับบริจาคจากลูกค้าที่มาใช้บริการภายในร้าน เพื่อนำเงินที่ได้ไปสมทบทุนช่วยเหลือผู้ป่วย ในโครงการจากใจผู้ให้ ส่งต่อถึงใจผู้รับ  ซึ่งปกติตนจะเก็บเงินและโอนเข้าบัญชีของทางมูลนิธิเดือนละหนึ่งครั้ง  ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยถูกก่อเหตุจึงไม่มีใครคาดคิด จนกระทั่งช่วงเช้าของวันนี้ ตนไม่เห็นตู้รับบริจาคใบดังกล่าวตั้งอยู่ จึงสอบถามพนักงานแต่ไม่มีใครพบเห็น จึงเปิดกล้องวงจรปิดตรวจสอบก็พบว่าถูกชายคนดังกล่าวลักไป จึงนำหลักฐานเข้าแจ้งความร้องทุกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้ติดตามจับกุมชายคนดังกล่าวมาดำเนินคดี

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่าชายคนดังกล่าวน่าจะเคยก่อเหตุทำนองเดียวกันมาหลายครั้ง และอาจจะเข้ามาดูลาดราวแล้วจึงได้ทำทีเข้าไปเดินดูสินค้าภายในร้านดังกล่าว สบโอกาสพนักงานเผลอจึงได้ลงมือก่อเหตุดังกล่าว อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะได้เร่งติดตามโจรใจบาปรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป