แชร์กระหน่ำ!! "ลุงวัย 65" ทุ่มเงิน 7 หมื่นต่อเรือกอและ ล่องมาตามแม่น้ำนาน 64 วัน พอรู้เหตุผล โร่โพสต์เฟซบุ๊กรัวๆ!!
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 12 กันยายน 2560 นายเกริ่น เขียนชื่น อายุ 65 ปี ซึ่งร่องเรือกอแระขนาดเล็กมากับนายมุกตา นาวี อายุ 30 ปี หนุ่มชาวจังหวัดนราธิวาส เพื่อนจิตอาสาจากปลายด้ามขวานจังหวัดนราธิวาส มุ่งหน้าพระบรมมหาราชวัง เพื่อเข้ากราบพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จากจังหวัดนราธิวาส มาจนถึงวันนี้ใช้เวลาในการล่องเรือกอแระมาถึงแม่น้ำเจ้าพระยาจังหวัดสมุทรปราการ นานถึง 64 วัน ด้วยความตั้งใจที่จะเดินทางเข้ากราบพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พ่อหลวงของเรา
โดยขอให้ช่างในจังหวัดปัตตานีช่วยต่อเรือ กอแระลำน้ำให้ที่นั่งได้ 2 คน มีการเสริมอุปกรณ์ส่วนควบเพื่อให้การเดินเรือในทะเลเพื่อปลอดภัยมากขึ้น หากต้องเจอคลื่นสูงหรือลมแรง เช่น การต่อเสากระโดงเพื่อใช้ในการชักใบเรือ และการต่อทุ่นข้างเรือทั้ง 2 ข้าง ใช้เงินในการต่อเรือลำนี้ประมาณ 7 หมื่นบาท และได้ตั้งชื่อเรือลำนี้ว่า ญีวอ ยัง ซามอ ซึ่งแปลว่า หัวใจเดียวกัน โดยออกเดินทางจากจังหวัดนราธิวาส มาตั้งแต่เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2560 และในวันนี้เดินทางเข้ามาสู้แม่น้ำเจ้าพระยาสะพานภูมิพล จังหวัดสมุทรปราการ รวมระยะเวลาในการล่องเรือมารวม 64 วันและคาดว่าใช้เวลาในการร่องเรืออีก 2 วันก็จะถึงเป้าหมายคือท่าพระจัน ก่อนที่จะขึ้นไปต่อแถวรอกราบพระบรมศพตามความประสงที่ตนได้ตั่งใจไว้
โดยคุณลุงเกริ่น ได้เล่าว่า ตนออกเรือมาตั้งแต่วันที่ 9 กรกฎาคม 2560 โดยออกมาจากเกาะยาวตากใบ มาจากปลายด้ามขวานเป็นเขตแดนติดอยู่กับมาเลเซีย จังหวัดนราธิวาส จังหวัดปัตตานี เลาะขึ้นมาทางสงขลา นครศรีธรรมราช ซึ่งตรงช่วงนี้ต้องข้ามมาทางแหลมตะรุมพลุก ที่อยู่ห่างใกล้มากเลย และเข้ามาทางสุราษฎร์ธานี จังหวัดชุมพร ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร และจังหวัดสมุทรปราการ จนวันนี้เป็นวันที่ครบรอบ 64 วันของการเดินทางมาจากปลายด้ามขวานของตนที่เดินทางมาถึงสะพานภูมิพลของในหลวงท่าน ก็เป็นการเดินทางที่ยาวไกลมาก และตั้งใจว่าจะไปขึ้นที่ท่าพระจัน ที่ร้อยดวงใจมาหลาย ๆ คนในเรือเพื่อที่ตั้งใจว่าจะเข้าไปกราบพระบรมศพในหลวงท่าน ที่พระราชวัง ซึ่งคาดว่าน่าจะใช้เวลาในการเดินทางไปถึงท่าพระจันอีกประมาณ 2 วัน โดยจะนำเรือกอแระที่ตนล่องมาไปจอดที่ท่าพระจัน ซึ่งการล่องเรือมาในครั้งตนนี้ตนล่องเรือมาเพียงคนเดียว แต่ก็มีรถแดงคอยขับตามมาด้วย เราล่องเรือมาในช่วงมรสุมความลำบากมันมีทุกวันทั้งคลื่นทั้งลมมีทุกวัน คลื่นเมตรสองเมตรเราเจอกันมาทุกวันอุปสักมีทุกวันเพราะเรือเราลำเล็กนิดเดียว หลังจากที่ได้เข้ากราบพระบรมศพแล้ว เรือกอแระลำนี้ก็จะมอบให้หน่วยงานที่เห็นความสำคัญและต้องการเรือลำนี้นำไปเก็บรักษาแต่ก็ต้องดูก่อนว่ามอบให้หน่วยงานไหน การเดินทางครั้งนี้เป็นความภาคภูมิใจและประสบการณ์ที่มีค่ามากที่สุดในชีวิต อีกทั้งเรือกอแระ ลำนี้ยังเป็นสัญญาลักษณ์ของชาวเรือใต้แล้วอีกด้วย
ภาพ / ข่าว : ทีมข่าวคลิ๊กนิวส์ จ.สมุทรปราการ