เยี่ยมไปเลย!! "ชาวนายุคใหม่" หันปลูก พืชเศรษฐกิจ "โสนหางไก่" สร้างรายได้ดีกว่าทำนาข้าว !!

เยี่ยมไปเลย!! "ชาวนายุคใหม่" หันปลูก พืชเศรษฐกิจ "โสนหางไก่" สร้างรายได้ดีกว่าทำนาข้าว !!


 

ในช่วงที่มีน้ำหลาก หรือน้ำมากจนท่วมนาข้าวของชาวเกษตรกรในหลายพื้นที่ ซึ่งคงจะได้รับผลกระทบอย่างแน่นอนสำหรับผู้ที่ทำนาข้าว แต่มีชาวบ้านกลุ่มหนึ่งที่ไม่สนใจ และกังวลเรื่องของน้ำที่จะเข้าท่วมนาข้าวที่ปลูก แต่กลับมีรายได้เป็นกอบเป็นกำดีกว่าการปลูกข้าว โดยการปลูกต้นโสน หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าโสนหางไก่ ในอดีตมีขึ้นอยู่ทั่วไปตามทุ่งนาซึ่งเป็น ภาระกับเกษตรกรที่จะต้องถอนทิ้ง แต่ ณ ปัจจุบันกับสร้างรายได้ให้กับเจ้าของที่นาและประชาชนโดยรอบ โดยการรับจ้างตัดล้างต้นโสน  


 


สำหรับเจ้าของที่นานั้นซึ่ง ในแต่ละปีนั้นจะสร้างรายได้ให้ตั้งแต่ให้ 90,000 -100,000 บาท แค่ 5 ไร่ ซึ่งเปรียบกับการปลูกข้าวแล้วจะได้มากกว่าครึ่งต่อครึ่ง ระยะการปลูกเริ่มตั้งแต่ เมษายน จะเริ่มการการเพาะปลูก โดยการหว่านเมล็ดโสนไปพร้อมกับพันธ์ข้าว จากนั้นเริ่มใส่ปุ๋ยจนย่างเข้าสู่หน้าฝนหรือน้ำหลาก็ปล่อยน้ำเข้าที่นาจนระดับที่ตั้งไว้ แล้วปล่อยค่อยดูแลแค่วัชพืชเท่านั้น  จนถึง กรกฎาคม ก็สามารถที่จะเริ่มตัดต้นขายขายได้ ซึ่งจะมีพ่อค้าคนกลางจาก จ.พระนครศรีอยุธยา จะขับรถมารับถึงที่ ราคานั้นอยู่ที่ขนาดของลำต้นโดยเริ่มตั้ง 2 -5 บาท/ต้น สร้างรายได้เป็นอย่างดี ให้กับเจ้าของที่นา  ซึ่งต้นโสนที่ได้นั้นก็ถูกส่งเข้าโรงงานก่อนที่จะส่งต่อไปยังกลุ่มผู้ผลิตสินค้าโอท๊อป อำเภอบางปะอิน   อยุธยา เพื่อนำไปผลิตเป็นดอกไม้แห้งอาทิเช่น ดอกมะลิบาน ดอกมะลิตูม ดอกกุหลาบ ดอกบัว และอื่น ๆ อีกมากมาย ในปัจจุบันนี้มีการทำกันอยู่แทบทุกหลังคาเรือนเลยที่เดียว เป็นการสร้างรายได้เสริมที่ดีแก่ครอบครัวในช่วงที่ว่างเว้นจากการทำนาหรืองานประจำ 

 


ส่วนชาวบ้านในหมู่บ้านก็สามารถมีรายได้ควบคู่กันไป รับจ้างตัดวันละ 500 บาท ส่วนคนที่ต้องล้างเอาขนออกจากต้นนั้นจะได้ต้นละ 20 สตางค์ วันหนึ่งคนละไม่ต่ำกว่า 1500ต้นจะได้300บาทถ้าใครล้างเร็วก็จะได้มาก สำหรับการปลูกต้นโสนนั้นจะมีเพียงไม่กี่หมู่บ้านได้แก่ ม.5 ม.6 และ ม.10 ใน ต.บุฝ้าย อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี เท่านั้น

 



 

เดิมเลยที่เดียวนั้นการปลูกต้นโสน หรือโสนหางไก่นั้นจะมาจากแถวบางประอินทร์ แต่เนื่องจากในบริเวณที่ปลูกนั้นน้ำเป็นน้ำกร่อย ทำให้เนื้อต้นของโสนนั้นไม่ได้คุณภาพ เนื้อเป็นสีแดง ขาวเหมือนที่ปลูกในจังหวัดปราจีนบุรีถือว่าเป็นการพลิกวิกฤตในช่วงหน้าน้ำได้เป็นอย่างดี ส่วนข้าวที่ปลูกพร้อมกับต้นโสนนั้น ส่วนใหญ่ชาวบ้านจะเก็บไว้กินเองหรือปลูกในปีต่อไป นับว่าเป็นการสร้างให้กับครอบครัวและชุมชนเลยที่เดียว

 

 

 

 

 

 

ภาพ / ข่าว : สายชล หนูแดง ผู้สื่อข่าวจังหวัดปราจีนบุรี






ติดต่อ โฆษณา

Contact : Click Marketting -

Clicknews-tv.net