จากกรณีที่นาย เทพนิมิต  หรือเอ๋   เนื้อเขียว อายุ 40 ปี เข้าไปก่อเหตุทำร้ายร่างกายหญิงชราวัย 60 ปี ด้วยการใช้กำปั้นชกที่ท้องของผู้เสียหายอย่างจังเพื่อชิงทรัพย์เป็นกระเป๋าสะพายของผู้เสียหายแล้วหลบหนีไป  โดยมีภาพวงจรปิดที่หน้าร้านที่เกิดเหตุจับภาพไว้ได้อย่างชัดเจน  เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 14 มีนาคม 65 ภายในร้านขายกระเบื้องและหินอ่อนปากซอยศรีด่าน 21 ตำบลสำโรงเหนือ  อำเภอเมือง   จังหวัดสมุทรปราการ และต่อมาวันเดียวกันช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ฝ่ายสืบสวนของ สภ.สำโรงเหนือ ตามไปจับกุมผู้ต้องหารายนี้ได้ที่ทางเข้าบ้านพักย่านสมุทรปราการ

ล่าสุดเมื่อช่วงสายของวันนี้ที่ 15 มีนาคม 2565 พ.ต.ท.ธีรวุฒิ สมสุข สารวัตรสอบสวน สภ.สำโรงเหนือ เจ้าของคดี ได้เบิกตัวนายเทพนิมิต หรือเอ๋ เนื้อเขียว อายุ 40 ปี ผู้ก่อเหตุมาสอบปากคำเพิ่มเติม โดย นายเทพนิมิต ได้ให้การอ้างว่า ตนขี่รถจักรยานยนต์ไปถึงที่เกิดเหตุแล้วรถเกิดเครื่องดับ จังหวะที่กำลังเลี้ยวรถกลับเข้าซอยสังเกตเห็นเหยื่อพอดี ซึ่งขณะนั้นเหยื่อเป็นคนแก่ พบสบโอกาสจึงเข้าไปทำทีสอบถามเส้นทาง อาศัยจังหวะที่เหยื่อเผลอจึงเข้าประกบตัวเพื่อจะชิงทรัพย์แต่เหยื่อขัดขืน จึงเกิดอารมณ์ชั่ววูบได้ใช้มือที่กำอาวุธปืนปลอมเอาไว้ชกที่ท้องไปหนึ่งครั้ง ก่อนชิงทรัพย์หลบหนีไป ซึ่งก่อนหน้านี้ยังเคยก่อเหตุทำนองเดียวกันมาอีก 2 ครั้ง ได้ทรัพย์สินไปหลายรายการ

ขณะที่ นางสาวรัตนา  แพชัยสงค์ หลานสาวคุณป้าวัย 60 ปี เหยื่อของนายเทพนิมิต ได้เดินทางมาให้ปากคำเพิ่มเติมพร้อมกับ นางแดง พั่วแพง อายุ 60 ปี ผู้เสียหาย เพื่อเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมและเปิดร่องรอยบาดแผลฟกซ้ำที่ท้อง และริมฝีปากข้างขวา เพื่อให้พนักงานสอบสวนบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน  ขณะที่ผู้เสียหายรายนี้ยังอยู่ในอาการหวาดผวากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ต่อมาในเวลา 13.00 น. พ.ต.อ.โชติวัฒน์  เหลืองวิลัย รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พ.ต.อ.อาทิตย์  ซิ้มเจริญ  ผกก.สภ.สำโรงเหนือ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้ร่วมกันคุมตัวนายเทพนิมิต หรือ เอ๋ เนื้อเขียว อายุ 40 ปีผู้ก่อเหตุมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังที่เกิดเหตุ โดยเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวแม่ของ น.ส.ดวงวิมล  ประเสริฐ อายุ 22 ปี ผู้เสียหายอีกรายที่ถูกก่อเหตุขณะที่นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ของมารดากำลังจะเข้าบ้านพัก และถูกคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์มาแกล้งชนจนล้มและใช้ปีนจี้ชิงทรัพย์เป็นสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาทพร้อมพระเลี่ยมทองก่อนหลหนีไป เหตุเกิดที่บริเวณปากซอยแบริ่ง 6 เมื่อช่วงหัวค่ำของวันที่ 24 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา ให้เดินทางมาดูตัวและชี้ยืนยันว่าเป็นคนร้ายคนเดียวกับที่ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ใช้เวลาในการทำแผนนานกว่า 30 นาที ก่อนคุมตัวไปขออำนาจศาลจังหวัดสมุทรปราการเพื่อฝากขังรอส่งตัวฟ้องศาลเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว : ผู้สื่อข่าวคลิกนิวส์ จ.สมุทรปราการ