เมื่อเวลา 17.30 น.วันที่ 30 สิงหาคม 2564  ร.ต.อ. สมยศ ไกรกิจธนโรจน์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.สำโรงใต้ สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถบรรทุกสิบล้อบรรทุกทรายชนท้ายพ่วง 18 ล้อ กลางสะพานภูมิพล 2 มุ่งหน้าลงถนนปู่เจ้าสมิงพราย ต.บางหญ้าแพรก อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ มีผู้เสียชีวิตหลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยมูลนิธิป่อเต็กตึ้งเดินทางเข้าตรวจสอบ 

ในที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกสิบล้อไม่ทราบยี่ห้อ สีบอร์นเงิน ทะเบียน 53-1101 กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าฝั่งซ้ายชนอัดติดอยู่กับท้ายข้างขวารถพ่วง 18 ล้อ ไม่ทราบยี่ห้อ สีน้ำเงิน ทะเบียน 71-9456 สมุทรปราการ ซึ่งบรรทุกเหล็กมาเต็มพ่วงซึ่งจอดอยู่บริเวณเลนขวา ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 100 เมตรได้พบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชาย ชื่อนาย สมเดช คำภานุช อายุ 53 ปี ซึ่งเป็นคนขับรถสิบล้อคันดังกล่าวนอนเสียชีวิตอยู่กลางถนน 
 

จากการตรวจสอบภาพจากกล้องหน้ารถของพลเมืองดีได้พบว่า ก่อนเกิดเหตุรถบรรทุกสิบล้อคันดังกล่าวขับมาอยู่ในเลนซ้ายด้วยความเร็ว โดยมีรถพ่วง 18 ล้ออีกคันหนึ่งวิ่งอยู่เลนกลางและกำลังแซงรถสิบล้อคันดังกล่าวขึ้นไป อยู่ ๆ รถสิบล้อคันดังกล่าวได้เปิดไฟเลี้ยวขวาเพื่อจะเข้าเลนกลางกะทันหันเพื่อหลบรถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทรนเนอร์ที่วิ่งอยู่เลนซ้าย ก่อนที่จะเบี่ยงหัวรถออกมาออกมาและเกี่ยวกับด้านท้ายข้างซ้ายของหางรถพ่วงคันที่ขับอยู่เลนกลางจนประตูข้างขวาของรถสิบล้อเปิดอ้าออก ก่อนที่รถสิบล้อคันดังกล่าวจะพุ่งชนท้ายรถพ่วง 18 ล้อ คันที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเข้าอย่างจัง จนร่างของคนขับรถสิบล้อกระเด็นตกลงมาจากรถและถูกล้อรถของตัวเองทับร่างซ้ำจนเสียชีวิต ส่วนรถลื่นไถลไปข้างหน้ากว่าที่รถพ่วงที่ถูกชนท้ายจะประคองเบรกให้รถหยุดได้ก็ห่างจากจุดที่เกิดเหตุไปกว่าร้อยเมตร

ขณะที่นาย ชัยมงคล จิตรอ่อน 25 ปี ผู้ขับรถพ่วงบรรทุกเหล็ก ได้เล่าให้ว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ขับรถพ่วงคันดังกล่าวที่บรรทุกเหล็กมาเต็มคันเพื่อนำไปส่งให้ลูกค้า ขณะขับมาถึงที่เกิดเหตุทางด้านเลนซ้ายสุด เมื่อถึงที่เกิดเหตุ อยู่ ๆ สิบล้อคันดังกล่าวได้พุ่งเข้ามาชน ที่บริเวณด้านท้ายรถก็ได้ยินเสียงดังบริเวณท้ายรถ และรถสะเทือนไปทั้งคัน จึงมองกระจกหลัง ก็พบว่ามีรถบรรทุกสิบล้อคันดังกล่าวชนติดอยู่กับท้ายพ่วงของรถตน ตนพยายามเบรกแต่เบรกรถไม่อยู่ เนื่องจากถูกรถสิบล้อที่ชนท้ายดันมาข้างหน้ากว่าจะเบรกรถหยุดก็เลยจากจุดที่เกิดเหตุมากว่าร้อยเมตร ด้วยความตกใจจึงไม่กล้าลงจากรถ จนกระทั่งมีมูลนิธิมาถึงที่เกิดเหตุ ตนจึงลงมาดู ก็พบว่า มีผู้เสียชีวิต ตนรู้สึกตกใจอย่างมาก เนื่องจากไม่เคยเจอเหตุการณ์ลักษณะนี้มาก่อน 

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิฐานว่าผู้ตายน่าจะพยายามเบี่ยงรถออกเลนกลางเพื่อหลบรถพ่วงที่ขับอยู่ ด้านหน้าแต่ด้วยความเร็วของรถบวกกับน้ำหนักทรายมาบรรทุกมาเต็มขับและไม่ทันได้มองคิดว่ารถพ่วงที่วิ่งอยู่เลนกลางแซงพ้นไปหมดคันแล้ว จึงได้รีบหักพวงมาลัยออกมาทางเลนกลางและมากระแทกเข้ากับหางรถพ่วงที่ขับมาในเลนกลางอย่างแรงจนประตูข้างคนขับเปิดอ้าออกก่อนที่รถสิบล้อคันดังกล่าวจะพุ่งชนท้ายรถพ่วงที่ขับอยู่ด้านหน้าอย่างจัง ร่างของผู้ตายกระเด็นตกมาจากตัวรถและถูกล้อหลังรถตัวเองทับร่างจนเสียชีวิตดังกล่าว 

ภาพ / ข่าว : ผู้สื่อข่าวคลิกนิวส์ จ.สมุทรปราการ