ฆ่าทุบหน้า "สาวใหญ่" ฟันหลุด คาดฝีมือลูกเลี้ยงแอบมีสัมพันธ์สวาทแม่เลี้ยง

ฆ่าทุบหน้า "สาวใหญ่" ฟันหลุด คาดฝีมือลูกเลี้ยงแอบมีสัมพันธ์สวาทแม่เลี้ยง


เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 9 พฤษภาคม 2563 พ.ต.ท.ประยุทธ คำบอนพิทักษ์ สว.สอบสวน สภ.น้ำพอง รับแจ้งจากชาวบ้าน บ้านหนองทุ่ม ม.12 ต.พังทุย อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่นว่า มีคนถูกฆ่าตายที่บ้านเลขที่ 110 ให้ตำรวจไปตรวจที่เกิดเหตุและชันสูตรพลิกศพผู้ตายด้วย ภายหลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นไปตรวจที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.อนุศักดิ์ ศักดาวัชรานนท์ ผกก.สภ.น้ำพอง และกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนอีกหลายนาย นอกจากนี้ยังได้ประสานแพทย์เวร รพ.น้ำพองและเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 4 ขอนแก่น ร่วมตรวจที่เกิดเหตุด้วย

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบศพผู้ตาย นอนตายอยู่ที่พื้นที่ดินบริเวณหน้าบ้าน ทราบชื่อว่า นางบุญมี หรือนางติ๋ม  จันทร์ภิรมย์ อายุ 57 ปี เจ้าของบ้านนอนตายในสภาพนอนหงาย สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีชมพู ใส่กางเกงขายาวสีเทา  ใบหน้าซีกขวา ถูกทุบด้วยของแข็ง จนใบหน้าเละ ฟันหลุด มีสุนัขที่ผู้ตายเลี้ยงไว้หลายตัวนอนเฝ้าศพผู้ตาย  ใกล้กับศพผู้ตาย มีมีดสปาต้า เปื้อนเลือดตกอยู่ เจ้าหน้าที่ศพฐ.4 จึงตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน ใกล้กันมีเปลสนามติดคราบเลือดบริเวณด้านบน และกองเลือดใต้เปลสนาม มีโทรศัพท์มือถือวางอยู่บนเปล 1 เครื่อง มีลำโพงบลูธูท และพวงกุญแจ ตกอยู่ข้างเปล จากนั้นได้ร่วมกันตรวจที่เกิดเหตุและชันสูตรศพ ผู้ตายเสียชีวิตไม่น้อยกว่า 6 ชม. จึงมอบศพให้มูลนิธิศาลเจ้าพ่อน้ำพอง นำศพไปที่นิติเวช รพ.ศรีนครินทร์เพื่อให้แพทย์ชันสูตรศพตามขั้นตอน


นายปารเมศ  นามมา อายุ 48 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เปิดเผยว่า นางติ๋มเคยมีครอบครัวในเมืองขอนแก่น แต่เลิกกันนานแล้วต่อมาได้สามีใหม่มีอาชีพขายของตามตลาดนัด แต่สามีได้เสียชีวิตเมื่อ2ปีที่ผ่านมา จากนั้นนางติ๋มก็อาศัยอยู่ที่บ้านเพียงลำพังยึดอาชีพเป็นหมอนวดแผนโบราณ หานวดตามหมู่บ้าน และตามสถานที่ต่างๆที่ลูกค้าเรียกไป  และเมื่อช่วงต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาได้มีชาย ทราบเพียงชื่อเล่นว่านายเป้ รูปร่างผอม สูงประมาณ170 ซม. ตัดผมรองทรง มาหานางติ๋มที่บ้าน และนางติ๋มก็บอกกับเพื่อนบ้านใกล้เคียงว่า นายเป้เป็นนักดนตรีเปิดหมวก ตามตลาดนัดและถนนคนเดิน เป็นลูกเลี้ยงที่สามีเคยเลี้ยงดูมา จะมาอาศัยอยู่ด้วย เนื่องจากช่วงไวรัสโควิดระบาด ไม่สามารถรองเพลงได้ และนางติ๋มเคยไปบอกกับ กำนันและผู้นำชุมชนว่า นายเป้ เป็นคนประสาท กินยาจิตเวชประจำ ชาวบ้านหลายคนที่รู้จึงได้ตักเตือนว่า ไม่ควรให้มาอาศัยอยู่ด้วยเพราะจะเกิดอันตรายกับชาวบ้านแต่นางติ๋มบอกว่า คนบ้าฆ่าคนไม่มีความผิด และไม่กลัวทุกคนจึงปล่อย และเฝ้าดูอยู่ห่างๆ

ตั้งแต่นายเป้มาอยู่ด้วย ที่บ้านนางติ๋มจะมีการดื่มกินเปิดเพลงเสียงดังตั้งแต่ช่วงเย็นจนดึกดื่นชาวบ้านมาบอกกล่าวก็ถูกไล่ตะเพิด บางรายถูกนางติ๋มถือมีดสปาต้าข่มขู่ เพื่อนบ้านจึงไม่ใส่ใจ โดยก่อนที่จะถูกฆ่าตายนั้น ช่วงกลางวัน วันที่ 8 นางติ๋ม ออกจากหมู่บ้านไปนวดให้ลูกค้า ที่บ้านจึงเหลือเพียงนายเป้ ที่คอยเลี้ยงสุนัขและดูแลบ้าน ช่วงเย็นนางติ๋มกลับจากไปนวดให้ลูกค้าก็ซื้อสุรามาดื่มที่บ้านกับลูกเลี้ยงและเปิดเพลงเสียงดังลั่น  ประมาณ 3 ทุ่ม นางติ๋มเดินไปหาเพื่อนบ้าน พร้อมกับบอกว่า ให้ไปไล่นายเป้ ลูกเลี้ยงออกจากบ้านให้ด้วย แต่เพื่อนบ้านเห็นว่านางติ๋มเมาจึงได้แต่ปลอบใจว่า สร่างเมาแล้วค่อยคุยกันดีดี คุยตอนเมาจะไม่รู้เรื่อง นางติ๋มจึงเดินกลับมาที่บ้าน  จากนั้นเพื่อนบ้านข้างเคียงก็ได้ยินเสียงคนทะเลาะกัน และเสียงเพลงก็เปิดดังขึ้นกว่าปกติ จนรุ่งเช้า ชาวบ้านจึงพบนางติ๋มเป็นศพถูกฆ่าตายยู่ลานดินหน้าบ้านส่วนนายเป้ ลูกเลี้ยงก็หายตัวไป

ทางด้านนางแป๋ว เพื่อนบ้านที่มีบ้านอยู่ใกล้กัน กล่าวว่า ทุกครั้งที่ได้ยินเสียงทะเลาะกันส่วนใหญ่ฝ่ายชายจะเป็นคนขึ้นเสียงนางติ๋มจะเงียบและมักจะถูกฝ่ายชายดุด่าต่อว่า ในลักษณะของคนที่มีอารมย์หึงหวงและเป็นเหมือนคนมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาว ซึ่งคืนที่จะถูกฆ่าตาย ก็ได้ยินเสียงฝ่ายชายต่อว่าผู้ตายต่างๆนานา เหมือนหึงหวงผู้ตาย กระทั่งฝ่ายหญิงถูกฆ่าและฝ่ายชายก็หายหน้าไป จึงเชื่อว่า ทั้งสองคนน่าจะมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งเกินกว่า ลูกเลี้ยงกับแม่เลี้ยง และเมื่อคืนที่ผ่านมาพบว่าทั้งคู่มีปากเสียงกัน ตนเองได้ยินคำพูดฝ่ายชายพูดว่า เมื่อคืนมึงไปไหนมา มึงบอกกูว่ามึงจะไปเอาเงิน 200 แต่มึงกลับมาเที่ยงคืนมึงไปมีอะไรกับชู้มาใช่มั้ย ทำให้ตัวเองเอะใจว่าเป็นลูกหรือเป็นสามีกันแน่ และก่อนหน้านี้ฝ่ายหญิงเวลาเมาจะชอบหาเรื่องชาวบ้านไปทั่ว ตนเองก็เคยจะถูกผู้ตายเอามีดมาทำร้ายถึงบ้าน แต่ก็เคลียร์กันจบไป แต่ถ้าหากไม่เมาก็จะปกติ และหลังจากที่ทั้งคู่มีปากเสียงกันก็มีการเปิดเสียงลำโพงทีวีดังลั่นบ้านแต่ไม่กล้าไปดูเนื่องจากกลัวจะได้รับอันตราย



พ.ต.อ.อนุศักดิ์ ศักดาวัชรานนท์ ผกก.สภ.น้ำพอง กล่าวว่าจากการสอบถามชาวบ้านต่างก็ให้ข้อมูลตรงกันว่าผู้ตายไม่มีสามี และอาศัยอยู่ที่บ้านเพียงลำพัง แต่ในช่วงอาทิตย์กว่าๆนี้มีชายอีกคนมาอาศัยอยู่ด้วยชาวบ้านทราบข้อมูลเพียงว่าเป็นลูกเลี้ยงของสามีที่ตายแล้วมาขออาศัยอยู่กับผู้ตายและมักจะมีการดื่มกินที่บ้านในช่วงเย็นจนถึงค่ำมืดเกือบทุกวัน ผู้นำชุมชนต้องคอยมาตักเตือน เนื่องจากเมื่อผู้ตายดื่มสุราแล้วนิสัยก็จะเปลี่ยนไป จนมีเรื่องทะเลาะกับชาวบ้าน แต่เมื่อถูกฆ่าตาย ชาวบ้านต่างก็สงสัยว่าคนที่ลงมือก่อเหตุน่าจะเป็นลูกเลี้ยง เพราะหลังพบศพผู้ตาย ลูกเลี้ยงก็หายตัวไปพร้อมกีตาร์ ซึ่งขณะนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่หาเบาะแสของคนร้าย รวมถึงเบาะแสของลูกเลี้ยงรายนี้ด้วยเช่นกัน ส่วนประเด็นที่ถูกฆ่าตายนั้นอาจจะเกิดจากปัญหาในครอบครัว และการทะเลาะวิวาทในวงสุรา

 

ภาพ / ข่าว : ผู้สื่อข่าวคลิ๊กนิวส์ จ.ขอนแก่น 






ติดต่อ โฆษณา

Contact : Click Marketting -

Clicknews-tv.net