เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 14 มีนาคม 2563 ร.ต.อ.วิฑูรย์  เพ็งบุบผา  รองสารวัตรสอบสวน สภ.บางเสาธง สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีชายเสียชีวิตอยู่ในร่องน้ำริมคลองเจริญราช ถนนทางเข้าเคหะเมืองใหม่บางพลีโครงการ 4 หมู่ 16 ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ  หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วย พ.ต.อ. วรวุฒิ ปานขาว ผกก. และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน อาสามูลนิธิป่อเต็กตึ้งเดินทางเข้าตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นบ่อเลี้ยงปลาเก่าที่ปัจจุบันเลิกเลี้ยงปลาไปแล้วเนื่องจากไม่มีน้ำ ทำให้กลางเป็นพื้นที่ดินว่างเปล่าที่มีหญ้าขึ้นอยู่ จุดเกิดเหตุอยู่ห่างจากถนนสายหลักประมาณ 300 เมตร ภายในร่องน้ำริมคลองดังกล่าวได้พบศพชาย ทราบชื่อภายหลังชื่อนายประถม สามารถ อายุ 32 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ในพงหญ้าดังกล่าวในสภาพเน่าเปื่อยซึ่งคาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 วัน ที่บริเวณริมคลองเจริญราชห่างศพผู้ตายประมาณ 5 เมตรได้พบกระเป๋าเป้สะพาย ลายพรางสีเทา วางเอยู่ในพงหญ้าจำนวน 1 ใบ ตรวจค้นภายในกระเป๋าเป้ดังกล่าวพบซองยา ของโรงพยาบาลวิภารามอมตะนคร และเอกสารอื่น ๆ ของผู้ตายยกเว้นบัตรประชาชนและเงินสด ห่างจากศพผู้ตายไปประมาณ 1 เมตรได้พบไม้รวกท่อนหนึ่งยาวประมาณ 2 เมตร วางอยู่ใกล้กับศพ จำนวน 1 อัน และได้พบรองเท้าหนังเทียมสีเทาอีก 1 คู่พร้อมด้วยกางเหงยีนส์เก่า ๆ อีก 1 ตัวตกอยู่ในป่าหญ้าห่างจากจุดที่พบศพประมาณ 15 เมตร เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวนทราบว่า นายประถม ผู้ตายทำงานอยู่ที่บริษัทแห่งหนึ่ง ที่ตั้งอยู่ภายในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร อ.เมือง จ.ชลบุรี ในแผนกฝ่ายผลิตนม และมีห้องพักอยู่บริเวณทางเข้านิคมอมตะนครดังกล่าว และจากการสอบถามเจ้าหน้าที่ของบริษัทดังกล่าวทางโทรศัพท์ ได้ทราบว่า เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา  ผู้ตายได้มาแจ้งลาป่วยกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลของบริษัท ก่อนที่จะหายตัวไปไม่มาทำงานอีกเลย ซึ่งเพื่อนคนงานได้ช่วยกันออกตามหาทั้งที่ห้องพักและบ้านเพื่อนร่วมงานแต่ก็ไม่พบ จนกระทั่งมาทราบว่าผู้ตายมานนอนเสียชีวิตอยู่ในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ และจากการสอบสวนญาติของผู้ตายที่อยู่ในจังหวัดกาฬสินธุ์ ทางโทรศัพท์ได้ทราบว่าผู้ตายมีอาการป่วยเป็นโรคซึมเศร้า มานานแล้วมักบ่นน้อยใจตัวเองอยู่บ่อยครั้งจนกระทั่งมารับแจ้งจากเจ้าาหน้าที่ว่าผู้ตายเสียชีวิตแล้ว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่า น่าจะเป็นการฆ่าตัวตาย เนื่องจากผู้ตายเป็นโรคซึมเศร้า อาจจะน้อยใจ อะไรบางอย่าง ส่วนประเด็นที่สองผู้ตายอาจถูกลวงมาทำร้ายจนเสียชีวิตและชิงทรัพย์ไปเนื่องจากในที่เกิดเหตุไม่พบทรัพย์สินหรือของมีค่าของผู้ตายเลย   อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะได้ทำการสืบสวนข้อเท็จจริงอีกครั้งเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ภาพ / ข่าว : ผู้สื่อข่าวคลิ๊กนิวส์ จ.สมุทรปราการ