วันที่ 12 ธันวาคม 2561 เวลา13.00น.นายภาคี  คชรัตน์ อายุ 62 ปีพร้อมด้วยนางสาวศิริพร  ตุ้มวิจิตร อายุ38 ปี สองเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งเลี้ยงปลาใน ต.บางพลีน้อย อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อนายชาติชาย  อุทัยพันธ์  ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ  กรณีได้รับผลกระทบจากการปล่อยน้ำของโรงงานอุตสาหกรรมที่ผลิตยาในย่าน  ต.บางพลีน้อย อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ที่คาดว่าอาจจะมีสารเคมีเจือปนอยู่ในน้ำ 

จากการสอบถามนายภาคี  คชรัตน์  หนึ่งในเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งเลี้ยงปลาในบ่อที่ได้รับผลกระทบกล่าวกับทางผู้สื่อข่าวว่า ตนเองประกอบอาชีพเกษตรกรนำกุ้งขาวและกุ้งก้ามกามรวมถึงปลาเบญจพรรณที่นำมาเลี้ยงไว้ขายภายในบ่อเลี้ยงในพื้นที่ 60 ไร่ภายในซอยวัดเกาะแก้ว ต.บางพลีน้อย อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเองทั้งสองคนได้ประกอบอาชีพเกษตรกรมานานกว่า 10 ปี ไม่เคยเกิดปัญหาอะไรจนกระทั่งมีโรงงานอุตสาหกรรมผลิตยามาก่อสร้างขึ้นในพื้นที่ติดกับพื้นที่ของตนเองจนกระทั่งโรงงานอุตสาหกรรมผลิตยาแห่งนี้สร้างเสร็จก็เริ่มมีผลกระทบต่อเกษตรกรเนื่องจากว่าเป็นพื้นที่ติดต่อกันและในช่วงที่มีฝนตกลงมาทางฝ่ายผู้เลี้ยงกุ้งเลี้ยงปลาได้สังเกตุเห็นว่ามีน้ำท่วมขังในพื้นที่บ่อเลี้ยงกุ้งของตนเองซึ่งมีลักษณะเป็นฟองสีของน้ำมีสีขาวขุ่นคล้ายๆมีสารเคมีเจือปนตนเองจึงได้ถ่ายภาพเก็บไว้เป็นหลักฐานและยังพบอีกว่าในบริเวณตามขอบริมกำแพงของโรงงานแห่งนี้ยังมีน้ำไหลซึมออกมาอีกหลายจุดและได้ไหลลงมาในพื้นที่ของตนเองจึงได้ประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้ามาตรวจสอบเพราะได้รับผลกระทบเนื่องจากกุ้งและปลาที่ได้เลี้ยงไว้นั้นไม่มีการเจริญเติบโตหลังจากนั้นก็ได้มีหน่วยงานและเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบและสั่งการให้โรงงานอุตสาหกรรมแห่งนี้ทำการปรับปรุงเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อเกษตรกรอีกแต่ภายหลังในช่วงที่มีฝนตกลงมาเกษตรกรกับพบว่ายังมีน้ำไหลซึมออกมาอีกหลายต่อหลายครั้งและได้แจ้งไปยังหน่วยงานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้ทำการตรวจสอบแต่ในระยะหลังๆมากับไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใดในวันนี้จึงได้ตัดสินใจเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อท่านผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการเพื่อให้ช่วยเหลือ จากนั้นได้เข้ายื่นคำร้องต่อนายดำรงค์ศักดิ์   ยอดทองดี  ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสมุทรปราการ

ด้านนายดำรงค์ศักดิ์  ยอดทองดี ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสมุทรปราการ กล่าวว่า จากการตรวจสอบเอกสารเบื้องต้นซึ่งทางโรงงานอุตสาหกรรมแห่งนี้ที่ได้มีการถูกร้องเรียนทางจังหวัดสมุทรปราการก็ไม่เคยนิ่งนอนใจและเป็นห่วงเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากนี้จะเรียกทางฝ่ายของทางโรงงานอุตสาหกรรมและทางฝ่ายเกษตรกรรวมไปถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้ามาพูดคุยถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นเพื่อแก้ปัญหาให้ถูกต้องตามกฎหมายรวมถึงระเบียบข้อบังคับหากฝ่ายผู้เสียหายจะเรียกร้องค่าเสียหายซึ่งเกิดจากผลกระทบของโรงงานอุตสาหกรรมแห่งนี่ก็สามารถยื่นเรื่องฟ้องต่อศาลได้

จากนั้นนายภาคี  คชรัตน์และนางสาวศิริพร  ตุ้มวิจิตร สองเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งและปลาได้พาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่เดินตรวจสอบซึ่งอยู่ภายในซอยวัดเกาะแก้วและจากการตรวจสอบบริเวณริมกำแพงของโรงงานอุตสาหกรรมซึ่งติดกับบ่อเลี้ยงกุ้งของเกษตรกรพบว่าจุดดังกล่าวที่ทางผู้เสียหายอ้างว่าได้มีน้ำไหลซึมออกมามีลักษณะคราบน้ำตามบริเวณริมขอบกำแพงหลายจุดสภาพพื้นดินก็อยู่ในลักษณะเปียกชุ่มตรงจุดที่มีน้ำไหลซึมออกมาด้านนายภาคี  ยังบอกกับทางผู้สื่อข่าวอีกว่าก่อนหน้านี้ในช่วงกลางดึกที่ได้มีฝนตกลงมาตนเองได้เดินออกมาดูในบริเวณพื้นที่ของตนก็พบว่ายังมีน้ำไหลซึมออกมาจากข้างในโรงงานอุตสาหกรรมแห่งนี้ไหลลงมาในพื้นที่บ่อเลี้ยงกุ้งของตนจึงได้ถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐานและในบางคืนที่มีฝนตกลงมาอีกตนเองยังเห็นพนักงานของทางโรงงานอุตสาหกรรมแห่งนี้ปีนกำแพงลงมาดูน้ำที่ไหลออกมาจากทางโรงงานอุตสาหกรรมและยังมีการทำตำหนิไว้บริเวณขอบกำแพงช่วงที่มีน้ำไหลซึมออกมาซึ่งอยู่ในพื้นที่ของตนเองจึงถ่ายคลิปเก็บไว้เป็นหลักฐานอีกด้วย

และในวันนี้ตนเองและนางสาวศิริพรได้เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อท่านผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ก็เพราะว่าต้องการให้ทางท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเข้ามาช่วยเหลือเพราะที่ผ่านมาได้เคยได้รับความเป็นธรรมแต่อย่างใดเคยร้องเรียนไปตามหน่วยงานต่างๆก็ไม่เป็นผลจนในวันนี้ตนเองจึงพร้อมด้วยนางสาวศิริพร จึงได้ตัดสินใจเข้าร้องเรียนต่อท่านผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ เพราะหวังว่าจะได้รับความเป็นธรรมและอาจจะมีบทสรุปในการแก้ไขปัญหานี้เพราะทางฝ่ายผู้เสียหายเองก็ได้รับผลกระทบนี้มานานหลายเดือนแล้วส่วนเรื่องค่าความเสียหายนั้นคงจะต้องเรียกร้องตามกฎหมายเพราะเงินที่ลงทุนไปก็มีมูลค่านับล้านบาทและยังไม่สามารถนำกุ้งและปลาที่เลี้ยงไว้นั้นนำกับมาขายได้เลยจึงอยากให้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วนเพราะทางฝ่ายเกษตรกรเดือดร้อนกันจริงๆ