ประธานชมรมผู้ปกครองคนพิการทางสติปัญญา จ.กาฬสินธุ์ โต้ข่าวร้องเรียนโกงเงินค่าจ้างเหมาบริการตามมาตรา  35 คนละ 1 แสนบาทต่อปีบริหารจัดการเป็นไปตามข้อตกลง  เพราะได้ทำความเข้าใจกับผู้รับจ้างก่อนเซ็นสัญญา  ขณะที่ผู้ปกครองคนพิการที่ร้องเรียนแฉเพิ่ม เป็นหลักฐานที่สร้างขึ้นภายหลัง
จากกรณีตัวแทนผู้ปกครองคนพิการใน จ.กาฬสินธุ์ ออกมาร้องเรียนเรื่องเงินค่าแรงผู้ดูแลคนพิการ ในโครงการจ้างเหมาบริการตามมาตรา  35 คนละ 1 แสนบาทต่อปี หรือเดือนละเกือบหมื่นบาท ถูกชมรมผู้ปกครองคนพิการทางสติปัญญา จ.กาฬสินธุ์ยักยอก ด้วยวิธีให้เปิดบัญชีทำงาน จากนั้นเก็บบัตรเอทีเอ็มและสมุดบัญชีก่อนจ่ายให้รายเดือนแค่คนละ 2,000-4,000 บาท ขณะที่มีการโอนเงินเข้าจริงเกือบหมื่นบาท เชื่อมีขบวนการสูบเลือดคนพิการแฝงในระดับชมรมถึงระดับสูง  เรียกร้องเครือข่ายพิทักษ์สิทธิ์คนพิการและภาคส่วนที่เกี่ยวข้องตรวจสอบตามข่าวที่เสนอแล้วนั้น

ล่าสุด วันที่ 16 ตุลาคม 2561 ผู้สื่อข่าว จ.กาฬสินธุ์ ติดตามความคืบหน้าหลังการร้องเรียน ที่ชมรมผู้ปกครองคนพิการทางสติปัญญา จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งได้มาเช่าอาคารพาณิชย์ ขนาด 3 ชั้น เยื้องศาลหลักเมือง ในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ เป็นที่ตั้งชมรมฯ  พบนางสาวพูนสุข อุดรสรรพ์ ประธานชมรมฯ และนายเกรียงศักดิ์ อุดรสรรพ์ สามีนางสาวพูนสุขฯ ในฐานะกรรมการชมรมฯ โดยมีผู้ปกครองหรือผู้รับจ้างรับเหมาบริการตามมาตรา 35 นำบุตรหลานที่มีความพิการ มาเข้ารับการบำบัดและฝึกทักษะอาชีพตามปกติ

นางสาวพูลสุข อุดรสรรพ์ ประธานชมรมผู้ปกครองคนพิการทางสติปัญญา จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่าจากข่าวที่มีผู้ได้รับสิทธิ์ตามมาตรา 35 รายหนึ่ง เข้าร้องเรียนกับเครือข่ายพิทักษ์สิทธิ์คนพิการและภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง กรณีไม่ได้รับเงินค่าจ้างตามสัญญานั้น ตนขอยืนยันอีกครั้งว่าบริหารจัดการด้วยความบริสุทธิ์ใจ และโปร่งใส โดยก่อนทำสัญญากับบริษัทไทยเอ็น โอเค จำจัด ในฐานะผู้ว่าจ้าง โดยผ่านสำนักงานจัดหางาน จ.กาฬสินธุ์ ก็ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานจัดหางานฯ ประชุมชี้แจงจนเป็นที่เข้าใจกันดี ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของเงินค่าจ้างทั้งหมด และส่วนที่จะถูกหัก โดยผู้รับจ้างหรือผู้ได้รับสิทธิ์ฯตามโควตา 10 คนนั้น จะได้รับเงินค่าจ้างรายละ 4,000 บาทต่อเดือน จากจำนวน 9,125 บาทที่ระบุในสัญญา ทั้งนี้ส่วนต่าง 5,125 บาทที่หักไว้นั้น จะสำรองไว้เพื่อค่าใช้จ่ายในกิจกรรมต่างๆ ที่ทางชมรมร่วมกับผู้ได้รับสิทธิ์ตามมาตรา 35 จัดขึ้น ทั้งนี้ ก็เพื่อพัฒนาศักยภาพ ให้การบำบัดฟื้นฟูผู้พิการให้ดูขึ้น รวมทั้งฝึกทักษะ ส่งเสริมอาชีพ ของผู้ดูแลพิการด้วย ซึ่งทุกคนก็รับทราบเงื่อนไข และยอมรับข้อตกลงพร้อมลงชื่อรับรองด้วยดี

นางสาวพูลสุขย้ำอีกว่า หลังจากผู้ได้รับสิทธิ์ตามมาตรา 35 รับทราบรายละเอียดในสัญญากับบริษัท ไทยเอ็น โอเค จำกัดแล้ว ทางชมรมก็ได้ทำสัญญาขึ้นมาอีกฉบับหนึ่ง ซึ่งก่อนเซ็นสัญญากับผู้ปกครองคนพิการหรือผู้รับจ้าง ได้มีการชี้แจงทำความเข้าใจกันด้วยวาจา และยอมรับเงื่อนไข 6 ข้อ คือ 1.ผู้รับสิทธิ์ตามมาตรา 35 ต้องทำงานที่ชมรมกำหนดฯสัปดาห์ละ 3 วัน ค่าจ้างเดือนละ 4,000 – 4,500 บาท, 2.หากไม่มาทำงานที่ชมรมฯ ตกลงรับค่าจ้างเดือนละ 2,000 บาท, 3.เงินค่าจ้างที่เหลือต่อเดือนมอบให้ทางชมรมบริหารจัดการภายในชมรมฯ เช่น ค่าเช่าสำนักงาน ค่าน้ำ ค่าไฟ และอื่นๆ, 4.ต้องเปิดบัญชีธนาคารกรุงศรีอยุธยาและทำบัตรเอทีเอ็ม เพื่อรับค่าจ้าง 3 เดือน/ครั้ง โดยมอบให้ทางชมรมเก็บสมุดเงินฝากและบัตรเอทีเอ็มไว้เพื่อใช้เบิกเงินค่าจ้าง, 5. ก่อนเซ็นสัญญาได้อ่านรายละเอียดในสัญญาแล้วจึงลงรายชื่อ และ 6.การพูดคุยตกลงกันด้วยวาจา ผู้รับสิทธิ์ฯ ยินยอมตามข้อตกลงข้อ 1,2,3,4 ด้วยความสมัครใจ โดยมีภาพถ่ายเป็นหลักฐานอ้างอิง

ด้านนางฐานิดา อนุอัน อายุ 46 ปี บ้านเลขที่ 24 หมู่ 1 บ้านเสริมชัยศรี  ต.นิคม อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์  ผู้ดูแล น.ส.อทิตยา อนุอัน หรือน้องอี๊ฟ อายุ 17 ปี ลูกสาว ซึ่งมีความพิการทางสติปัญญา  ผู้ได้รับสิทธิ์ตามมาตรา 35 ซึ่งเป็นผู้ร้องเรียน กล่าวว่า ก่อนทำสัญญาเป็นผู้ได้รับสิทธิ์ ตามมาตรา 35 และสัญญาที่ทางชมรมทำขึ้นมาอีกฉบับหนึ่งนั้น ตนไม่รู้รายละเอียดเกี่ยวกับอัตราค่าจ้างและถูกหักค่าแรงเข้าชมรม เพราะเป้าหมายจริงๆคืออยากพาลูกสาวเข้ารับการบำบัด 

นางฐานิดากล่าวอีกมา มาในระยะหลัง ไม่สะดวกที่จะพาลูกสาวไป เพราะต้องดูแลพ่อแม่ที่พิการเป็นอัมพฤกษ์และตาบอดอยู่ที่บ้าน  ประกอบกับพบพิรุธความไม่โปร่งใส ถูกยักยอกเงินค่าจ้างดังกล่าว เพราะได้รับเพียงเดือน 4,000 บาทหรือบางเดือน 2,000 บาท จากจำนวนเต็ม 9,125 บาท จึงได้ขอลาออกจากชมรม อย่างไรก็ตามตนยืนยันว่า ในเรื่องรายได้ค่าจ้างเหมาบริการตามมาตรา 35 รวมทั้งเรื่องที่ทางชมรมขอหักเป็นค่าบริหารจัดการในชมรมนั้น ตนไม่เคยได้รับคำชี้แจงจากประธานชมรมเลย ส่วนที่มีการกล่าวอ้างว่ามีการพูดคุยทำความเข้าใจ และมีภาพถ่ายเป็นหลักฐานยืนยันนั้น เป็นในภายหลังจากการทำสัญญา และมีข่าวร้องเรียนโกงเงินคนจนเกิดขึ้น

ภาพ / ข่าว  ผู้สื่อข่าวภูมิภาคคลิ๊กนิวส์ จ.กาฬสินธิ์ุ