วันที่14 กรกฎาคม 61 เวลา11.30 น. พ.ต.ท.วิฑูรย์ ศรีชาย สารวัตรสอบสวน  สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้ง มีคนร้ายก่อเหตุทำการทุบกระจกรถแล้วขโมยทรัพย์สิน ที่กระท่อมนา บริเวณฝั่งตรงข้าม มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี สามพร้าว  ตำบลสามพร้าว   หมู่10  จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วยตำรวจ เขตงานสามพร้าว

ในที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นไมท์ตี้-เอ็กซ์  สีเขียว หมายเลขทะเบียน บน3459 อุดรธานี จอดอยู่ข้างกระท่อมนา โดยมีนายสุพจน์  สุวรรณแสง  อายุ45ปี  อยู่บ้านเลขที่556 หมู่10 ตำบลสามพร้าว ผู้เสียหายเจ้าของรถและญาติ  ยืนรอให้การกับตำรวจ  โดยคนร้ายได้เอาของแข็งกระจกแค็ป ด้านหลัง ฝั่งด้านคนขับ แตกหลุดออกมาทั้งแผ่น
จากนั้นคนร้ายเข้าไปรื้อค้นทรัพย์สินภายในรถ มีกระเป๋าสตางค์ ของผู้เสียหาย และภรรยาของผู้เสียหาย ข้างในมีเงินสดจำนวน1,000 กว่าบาท ,แหวนทองครึ่งสลึง 1 วง , บัตรประชาชน และบัตรเอทีเอ็ม จำนวนหลายใบ ก่อนที่จะวิ่งหลบหนี เข้าไปในป่า  ผู้เสียหายได้โทรแจ้งตำรวจ มาทำการตรวจสอบ
 

นายสุพจน์  สุวรรณแสง  ให้การว่า ในวันนี้ตนกับภรรยาและน้องสาว ได้มาปลูกข้าว จำนวน16 ไร่  ซึ่งได้จอดรถยนต์กระบะเอาไว้ข้างกระท่อมนา ก่อนที่จะลงไปดำนา ห่างจากระท่อมนาเพียงแค่ 100 เมตร ประมาณ 20 นาที น้องเขยก็ได้ขับรถไถนา ตามมาที่หลัง พอถึงกระท่อมนา ก็เห็นคนร้ายเป็นชาย1 คน ใส่เสื้อสีดำแขนยาว นุ่งกางเกงขาสั้น ทำการขโมยกระเป๋าสตางค์ จำนวน2 ใบ ที่อยู่ในรถ แล้ววิ่งหลบหนี ซึ่งน้องเขยก็ได้วิ่งไล่ติดตาม แต่ก็ไม่ทันคนร้าย เพราะคนร้ายได้วิ่งเข้าไปในป่ารก และกลัวว่า อาจจะเจอสัตว์ที่มีพิษด้วย

ทรัพย์สินที่คนร้ายได้ไปนั้นถึงแม้ว่ามูลค่าอาจจะไม่มากนัก แต่มันที่สิ่งที่มีคุณค่างทางจิตใจ คือแหวนทอง น้ำหนักครึ่งสลึง ที่ตนเองตั้งใจเก็บเงินซื้อให้ภรรยา เป็นของขวัญวันเกิด เมื่อ3 เดือนที่แล้ว รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากเรื่องไม่น่าจะเกิดขึ้นมาเลย อย่างไรก็ตามขอฝากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำการจับคนร้ายให้ได้ ดังกล่าว
พ.ต.ท.วิฑูรย์  ศรีชาย เปิดเผยว่า คนร้าย อาจจะมาแอบซุ่มดูอยู่ก่อนหน้านี้ เห็นผู้เสียหาย จอดรถรถยนต์กระบะเอาไว้ข้างบน ที่กระท่อมนา ก่อนที่จะลงไปดำนา พอปลดคนจึงได้ลงมือก่อเหตุ แต่ญาติผู้เสียหาย มาพบ แล้ววิ่งไล่ตามจับตัวคนร้าย  แต่ก็ไม่ทันเนื่องจากคนร้ายวิ่งเหลบหนีข้าไปในป่า โดยฝากเตือน ชาวนา ไม่ควรจะนำทรัพย์สินที่มีค่าติดตัวมาด้วย หรือไม่ควรจะมีคนเฝ้าอยู่ที่บริเวณทรัพย์สิน ของตนเอง  เพื่อเป็นการป้องกัน ซึ่งจะได้ทำการประส่านตำรวจชุดสืบสวน หาเบาะแสคนร้ายรายนี้ เพื่อติดตามจับกุมนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว : ทีมข่าวคลิ๊กนิวส์ จ.อุดรธานี