วันที่ 20 มิถุนายน  61 จากกรณีของเรื่องราวการประหารชีวิตนักโทษเด็ดขาด ชายธีระศักดิ์ หรือ มิ๊ก หลงจิ ซึ่งถูกโทษประหารชีวิตด้วยการฉีดยาพิษเป็นรายแรกในรอบ 9 ปี จากเหตุการณ์ใช้อาวุธมีดรุมแทงนักเรียน ม.5 จำนวน 24 แผล เสียชีวิตคาที่ ภายในสวนสาธารณะสมเด็จพระศรีนครินทร์ 95 (เขาแป๊ะช้อย) ต.ทับเที่ยง เขตเทศบาลนครตรัง 

โดยหลายวันที่ผ่านมาได้เกิดดราม่าและข้อถกเถียงในการประหารชีวิตครั้งนี้อย่างมากมาย ต่อมามีการเปิดใจครอบครัว เพชฌฆาต ประหารชีวิต นักโทษ คนสุดท้าย ด้วยวิธี ยิงเป้า ซึ่งลูกชาย เผยว่า พ่อเริ่มแรก เป็นพี่เลี้ยง นักโทษประหาร ช่วยปรับลำกล้องปืนให้เพชฌฆาต แต่พอเพชฆาต คนเก่า ยุติหน้าที่ไป ผู้ใหญ่ในเรือนจำได้มาขอร้องให้ พ่อทำหน้าที่แทน ถือเป็นหน้าที่ ปฏิเสธไม่ได้วันไหนมีนักโทษประหารต้องคำสั่งศาล จะมีหนังสือ ส่งมาที่กรมราชทัณฑ์ประมาณเที่ยงตรง เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ และ เพชฌฆาต จะรู้วันนั้นเลย ก่อนนักโทษไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น
 

หลังจากนั้นก็จะกลับบ้านไปอาบน้ำ และกลับไปที่เรือนจำอีกคครั้งสำหรับการอาบน้ำ ทำความสะอาดร่างกาย เป็นการให้เกียรตินักโทษประหารด้วย เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ จะนำนักโทษมาพักที่ศาลาพักใจ ให้นักโทษทำพินัยกรรม หากอยากกินอาหาร เรือนจำจะจัดหาให้เท่าที่จัดได้ ก่อนนำนักโทษเข้าสู่ขั้นตอนประหารชีวิต มีพระมาสวดตามพิธีทางศาสนา มัดมือ ผูกตา นักโทษ แล้วนำเข้าห้องประหาร โดยเพชฌฆาต จะเล็งปืนไปที่ตำแหน่งหัวใจ ยิงประมาณ 8-9 นัด เพื่อให้แน่ใจว่า นักโทษเสียชีวิตจริงๆ และเพื่อให้นักโทษเจ็บปวดน้อยที่สุด เมื่อนักโทษเสียชีวิต จึงจะแจ้งให้ญาติรู้

จากการทำหน้าที่ เพชฌฆาต ของพ่อ ทุกครั้งที่ทำหน้าที่เสร็จเรียบร้อย จะนำเงินค่าตอบแทนไปทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้นักโทษ และทำให้พ่อมักจะสั่งสอนลูกๆ เสมอว่า เป็นคนดีนะลูก อย่าทำให้ใครเดือดร้อน สัจธรรมชีวิตคนเรา ทำดีได้ดี สุดท้ายกฎหมายก็มีจริง ต้องทำความดีให้มากที่สุด หลังจากยุติบทบาทในปี 2546 ที่เปลี่ยนการยิงเป้ามาเป็นการฉีดยา พ่อได้บวชให้นักโทษ 55 ราย ที่เคยเป็นเพชฌฆาต ปัจจุบันพ่อได้เสียชีวิตไปแล้วเมื่อปี 2555

ขอบคุณข้อมูล ช่องone