ชาวสวนอีสาน ถือฤกษ์วันพืชมงคลทำคันแทนาทองคำ เพาะต้นไม้ขายสร้างรายได้ตลอดปี!!
เมื่อวันที่ 12 พ.ค. 60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สวนอีสานบ้านแตกพืชสวนนาป่าคันแทนาทองคำ บ้านหนองหิน ต.ดู่ อ.ปรางค์กู่ จ.ศรีสะเกษ ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ ประธานเครือข่ายการท่องเที่ยวโดยชุมชน จ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย นายอุดมการณ์ บัวเกษ อธิการบดีมหาวิชชาลัยธรรมชาติและคณะ ได้เดินทางมาเยี่ยมชมและให้กำลังใจ นายปรีชา เขตนิมิตร อายุ 51 ปี เกษตรกรซึ่งได้ปรับเปลี่ยนวิธีคิดจากการทำนาเพียงอย่างเดียวมาทำโครงการคันแทนาทองคำปลูกพืชผักต่าง ๆ และเพาะพันธุ์ต้นไม้หลากหลายชนิด
โดยนายปรีชา ได้ทำการเพาะต้นไม้ต่าง ๆในถุงวางกระจายเต็มพื้นที่ 12 ไร่ ขณะที่บริเวณคันแทนาภายในสวนที่เดิมเคยเป็นที่ทำนาได้มีการปลูกต้นไม้ยืนต้นเช่น ต้นหมอน ต้นมะนาวและต้นไม้ต่าง ๆ ในบริเวณช่องว่างระหว่างต้นไม้ และพื้นที่ส่วนหนึ่งกำลังทำการปรับพื้นที่ เป็นคันแทนาเพื่อเตรียมปลูกต้นไม้ยืนต้นและได้ถือเอาฤกษ์วันพืชมงคลปีนี้ ในการเปิดโครงการคันแทนาทองคำเพาะปลูกต้นไม้ขายอย่างเป็นทางการ
นายปรีชา เขตนิมิตร อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8 หมู่ 2 บ้านหนองหิน ต.ดู่ อ.ปรางค์กู่ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ตนทำนาจำนวน 49 ไร่ ต่อมาเห็นว่า ในช่วงที่ว่างเว้นจากการทำนา ที่นาของตนไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไร อีกทั้งทำให้ไม่มีเงินรายได้ใช้จ่ายในครอบครัวอีกด้วย
ดังนั้น จึงได้ไปพบกับ ร.ต.ต.วิชัย สุริยุทธ นักปลูกต้นไม้ชื่อดังของประเทศไทย ชาว อ.ปรางค์กู่และ นายอุดมการณ์ บัวเกษ อธิการบดีมหาวิชชาลัยธรรมชาติ ได้แนวคิดมาว่าให้จัดทำโครงการสวนอีสานบ้านแตกพืชสวนนาป่าคันแทนาทองคำ ขึ้น โดยการปลูกต้นไม้เช่นต้นยางนา ต้นยาง ต้นประดู่ ต้นพะยูง ต้นสักบนคันแทนาที่ว่างเปล่า และในบริเวณช่องว่างระหว่างต้นไม้ให้ปลูกต้นไม้โตเร็ว
เช่นมะนาว มะม่วง ต้นหมอน เพื่อเก็บผลผลิตขาย อีกทั้งให้เพาะปลูกพันธุ์ไม้ขายด้วย
ตนจึงได้เปลี่ยนแนวคิดจากการทำนาอย่างเดียวมาทำคันแทนาทองคำ และได้แบ่งพื้นที่นาจำนวน 12 ไร่ มาทำตามแนวคิดนี้ มีการนำเอาเชือกมาผูกดึงต้นไม้แต่ละต้นโยงต่อกันเพื่อทำเป็นสะพานมดแดงเพื่อให้มดแดงไต่ไปมาระหว่างต้นไม้ได้ ทั้งนี้เพื่อจะให้มดแดงช่วยกินไข่หนอนผีเสื้อที่มาไข่เอาไว้ในเวลากลางคืนและเป็นต้นเหตุของโรคขี้กลากหรือที่เรียกว่า โรคทำให้ผิวมะนาวไม่เรียบทำให้ต้นมะนาวแคระแกร็น โดยได้ทดลองทำมาตั้งแต่เมื่อต้นปี 2559 ปรากฏว่า สามารถเก็บผลผลิตไปขายสร้างรายได้ตลอดปี
นายปรีชา กล่าวต่อไปว่า การเพาะต้นยางนาก็ไม่ต้องลงทุนอะไรเพียงแค่ไปเก็บเอาดอกยางนาที่หล่นลงมาจากต้นมาเพาะกล้าเอาไว้ ใช้เวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์ก็จะนำเอาไปขายได้ และมีออร์เดอร์เข้ามาจำนวนมาก โดยล่าสุดสั่งต้นยางนาเข้ามาจำนวน 5,000 ต้น ตนกำลังเร่งทำเพื่อให้ทันส่งขาย ส่วนตลาดที่เป็นแหล่งขายผลผลิตจะอยู่ตามตลาดนัดทุกแห่งในเขต อ.ปรางค์กู่และทุกอำเภอในเขตพื้นที่ จ.ศรีสะเกษและจังหวัดใกล้เคียง สามารถสร้างรายได้เดือนละ 15,000 – 20,000 บาท ทำให้ตนมีรายได้หลักเป็นค่าใช้จ่ายในครอบครัวได้เป็นอย่างดี และตนขอถือเอาฤกษ์ในวันพืชมงคลปีนี้ เปิดตัวโครงการอีสานบ้านแตกพืชสวนนาป่าคันแทนาทองคำที่ตนจัดทำขึ้นตามแนวทางศาสตร์พระราชาและตามแนวคิดของ ร.ต.ต.วิชัย สุริยุทธ นักปลูกต้นไม้ชื่อดังของประเทศไทยและ นายอุดมการณ์ บัวเกษ อธิการบดีมหาวิชชาลัยธรรมชาติอย่างเป็นทางการด้วย
ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ ประธานเครือข่ายการท่องเที่ยวโดยชุมชน จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า โครงการอีสานบ้านแตกพืชสวนนาป่าคันแทนาทองคำ ตามแนวทางศาสตร์พระราชาและตามแนวคิดของ ร.ต.ต.วิชัย สุริยุทธ นักปลูกต้นไม้ชื่อดังของประเทศไทยและ นายอุดมการณ์ บัวเกษ อธิการบดีมหาวิชชาลัยธรรมชาติ ที่นายปรีชา ได้นำมาใช้ในการทำการเกษตรนี้ สามารถให้ผลผลิตได้เป็นอย่างดี ซึ่งขณะนี้กำลังมีการขยายแนวคิดนี้ไปทั่วทั้ง จ.ศรีสะเกษ มีเกษตรกรมาศึกษาแนวคิดนี้ไปแล้วจำนวนมาก โดยนายปรีชาเป็นตัวอย่างที่ดีและประสบผลสำเร็จในการดำเนินการตามโครงการนี้ ที่สำคัญก็คือทำให้มีรายได้ในช่วงที่ว่างเว้นจากการทำนาได้ตลอดทั้งปีอีกด้วย
โดยไม่ต้องอพยพแรงงานไปหางานทำต่างถิ่นที่อยู่แต่อย่างใด
ภาพ / ข่าว ศิริเกษ หมายสุข ผู้สื่อข่าวคลิ๊กนิวส์ จ. ศรีสะเกษ