บัณฑิตหนุ่มจากรั้วมหาวิทยาลัยแม่โจ้หันหลังทิ้งเงินเดือนกลับบ้านนอกเดินหน้าปลูกกล้วย50ไร่รายได้ดีกว่าทำนาลงทุนครั้งเดียวเก็บกินได้20ปี

บัณฑิตหนุ่มจากรั้วมหาวิทยาลัยแม่โจ้หันหลังทิ้งเงินเดือนกลับบ้านนอกเดินหน้าปลูกกล้วย50ไร่รายได้ดีกว่าทำนาลงทุนครั้งเดียวเก็บกินได้20ปี


 วันที่ 15 ธ.ค. 2560 นายยอด บรรเทา อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 425 หมู่ 7 บ้านสุขเกษม ต.แหลมรัง อ.บึงนาราง จ.พิจิตร ซึ่งเป็นเกษตรกรหัวก้าวหน้าจบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ เชียงใหม่ (รุ่น 54 )   ที่หันมาปลูกกล้วยน้ำว้าบนที่ดิน 50 ไร่ เล่าถึงชีวิตตนเองว่า หลังจากเรียนจบก็ได้หางานทำเคยเป็นทั้งนักวิชาการด้านสัตวบาลและเป็นนักวิชาการด้านพืชสวนในอัตราจ้างของส่วนราชการ และเอกชน  ได้รับเงินเดือนหมื่นกว่าบาท และมีครอบครัว ซึ่งก็มีภรรยา คือ นางปรานอม อายุ 48 ปี ซึ่งก็จบเกษตรจากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ( รุ่น 55 ) แต่การมีครอบครัวและเป็นมนุษย์เงินเดือนรายได้ไม่มากพอที่จะเหลือเก็บและจุนเจือครอบครัว  ดังนั้นตั้งแต่เมื่อปี พ.ศ.2544 จึงตัดสินใจเดินหน้ากลับบ้านนอกที่ จ.พิจิตร ซึ่งเป็นบ้านเกิดของภรรยา ใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวและเครือญาติ จากนั้นก็เริ่มลงมือศึกษาและหาข้อมูล จึงมั่นใจว่าพื้นที่ที่มีอยู่เหมาะสมมีแหล่งน้ำเพียงพอ มีลู่ทางการตลาด จึงทำการลงมือปลูกกล้วยน้ำว้า โดยครั้งแรกปลูก 3-4 ไร่ และขยายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนถึงทุกวันนี้ได้ขยายพื้นที่ปลูกมากถึง 50 ไร่ โดยใช้หน่อกล้วยของตนเองไม่ได้ซื้อ 


 

 

นายยอด บัณฑิตหนุ่มจากรั้วมหาวิทยาลัยแม่โจ้  บอกถึงการลงทุน สำหรับการปลูกกล้วยน้ำว้า ว่าในพื้นที่ 1 ไร่ ระยะปลูกห่าง 4x4 เมตร ปลูกกล้วยได้ 100 ต้น ลงทุนครั้งแรกไม่เกิน 2,000 บาท จากนั้น 8-12 เดือน ก็เก็บผลผลิตขายกิโลกรัมละ 6-10 บาทโดยอธิบายว่าต้นกล้วย 1 ต้น ให้ผลผลิตเป็นกล้วยน้ำว้า 1 เครือ มีหลายหวีจะได้น้ำหนักประมาณ 15-20 กก. ถ้าขาย กก.ละ 6 บาท 20x6 = 120 บาท ขายหัวปลี 1 หัวหนักประมาณ 2 กก. ก็จะได้เงิน 6 บาท  ถ้าขายใบตองก็ได้เงินอีก โดยรวมๆแล้วปลูกกล้วยน้ำว้า 1 ต้น ก็จะได้เงินไม่กว่า 100 บาทต่อต้น โดยสรุปปลูกกล้วยน้ำว้า 1 ไร่ ก็จะมีรายได้เฉลี่ยถึงไร่ละ 24,000 บาทต่อปี ซึ่งลงทุนเพียงเดียวเก็บผลผลิตได้ยาวนาน 20 ปี ซึ่งขึ้นอยู่ที่การดูแลและการบำรุงรักษา โดยยืนยันว่าการกล้วยน้ำว้าดีกว่าปลูกข้าว แต่...ต้องมีความรู้ , พื้นที่เหมาะสม , มีแหล่งน้ำหรือน้ำใต้ดินที่เพียงพอ ที่สำคัญต้องมีตลาดรับซื้อที่แน่นอนและมั่นคง ซึ่งตนเอง โดยการชักนำของ ธกส.พิจิตร จึงได้ทำสัญญาซื้อขายกล้วยน้ำว้าล่วงหน้า กับบริษัท บานาน่าโซไซตี้ ซึ่งเป็นบริษัทที่รับซื้อกล้วยน้ำว้าเพื่อไปทำเป็นกล้วยตากพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งตั้งอยู่ที่ อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก จึงทำให้มีความมั่นคงทางด้านการตลาดและมีรายได้เป็นกอบเป็นกำ ซึ่งทุกวันนี้มีความสุขอยู่กับครอบครัวที่ได้ทำการเกษตรตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง

 

 



 ในส่วนของ นายโอฬาร ธนสัญชัย นายอำเภอบึงนาราง จ.พิจิตร และ นายกิตติชาติ  ชาติยานนท์ เกษตรจังหวัดพิจิตร ซึ่งลงพื้นที่ติดตามการประกอบอาชีพของเกษตรกรที่ลดพื้นที่การทำนาหันมาปลูกกล้วยน้ำว้าเปิดเผยว่า ในช่วงระหว่างวันที่ 16-20 ธันวาคม 2560 ณ สนามหน้าที่ว่าการอำเภอบึงนารางก็จะได้จัดงาน “เทศกาลกล้วยน้ำว้า” ขึ้นเพื่อส่งเสริมการตลาดให้กับกลุ่มเกษตรกร โดยภายในงานจัดให้มีกิจกรรมหลากหลาย ทั้งนี้เพื่อประชาสัมพันธ์ให้รู้ว่า อ.บึงนาราง จ.พิจิตร มีกล้วยน้ำว้าเป็นสินค้าการเกษตรที่เชิดหน้าชูตา สร้างรายได้และความมั่นคงทางด้านอาชีพ ทั้งนี้พบว่าในเขตพื้นที่ จ.พิจิตร มีผู้หันมาปลูกกล้วยน้ำว้ายึดเป็นอาชีพมากถึง 16,360 ไร่ โดย อ.บึงนาราง มีพื้นที่ปลูกกล้วยน้ำว้ามาที่สุดคือ 12,382 ไร่ ในแต่ละปีมีผลผลิตมากกว่า 50 ตันต่อปี สร้างรายได้ให้เกษตรกรมูลค่ากว่า 300 ล้านบาทต่อปี อีกทั้งมีการส่งเสริมที่ต่อเนื่องในการทำผลผิตภัณฑ์ OTOP เป็นกล้วยฉาบเค็ม กล้วยฉาบหวานรสน้ำผึ้ง และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งของดีหลากหลายนี้จะรวบรวมกันอยู่ในงานเทศกาลกล้วยน้ำว้า อาหารสุขภาพของ อ.บึงนารางดังกล่าว
 สำหรับท่านใดที่สนใจอยากแลกเปลี่ยนเรียนรู้เรื่องการตลาด , เรื่องการปลูกกล้วยน้ำว้า สามารถโทรติดต่อได้ที่ นายยอด บรรเทา เกษตรกรดีกรีปริญญาจากรั้ว ม.แม่โจ้ โทร 091-6259059 และถ้าสนใจผลผลิตภัณฑ์ OTOP โทร 087-5734472 , 081-0469547

 

 

 

 

 

 

 

 

ภาพ / ข่าว  :  สิทธิพจน์    ผู้สื่อข่าวภูมิภาคคลิ๊กนิวส์ จ. พิจิตร  

 

 

 






ติดต่อ โฆษณา

Contact : Click Marketting -

Clicknews-tv.net