วันที่13 ธันวาคม  60 เวลา15.30 น. พ.ต.ท.แดนชัย มูลป้อม สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุ มีคนผูกคอเสียชีวิต ในบ้านพักซอยสามัคคี7  เขตเทศบาลนครอุดรธานี จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร ,หน่วยกู้ชีพมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรมสถานและหน่วยกู้ชีพรพ.กรุงเทพ

ในที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียวเลขที่525/9   ภายในห้องนอนหลังบ้านพบชายนอนอยู่บนเตียง ทราบชื่อคือนาย คมกริช สมวงศ์ อายุ22ปี สวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงลายพรางขาสั้น นอนแนนิ่งอยู่บนเตียง  โดยใช้เชือกไนล่อนสีเขียวผูกคอตายเข้ากับขื่อหลังคา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร มาถึงคนแรก ได้ทำการปั๊มหัวใจ พอหน่วยกู้ชีพมาถึง ก็ปล่อยให้ทำการปั๊มหัวใจต่อ ในการยื้อชีวิตหนุ่มรายนี้  ซึ่งใช้เวลาประมาณ 15 นาที แต่ชีพจรก็ไม่กลับคืนมาได้เสียชีวิตแล้ว  ซึ่งยายของผู้ตาย ถึงกับเป็นลมสลดไป เจ้าหน้าที่มูลนิธิ ต้องทำการปฐมพยาบาลช่วยเหลือ

จากการสอบสวน นาง เสถียร สมวงศ์ 60ปี ยาย ของ ผู้ตาย ทั้งร้องไห้ไปด้วย ให้การว่า หลานชายมีอาการป่วย จะเป็นคนละแวง กลัวคนมาทำร้าย ซึ่งจะเก็บตัวเงียบอยู่แต่ในบ้านและภายในห้องนอน เป็นแบบนี้มาได้ถึง 3เดือนแล้ว จนตนต้องให้หลานชายเข้าไปนอนกับตาในห้องนอนด้วยกัน  โดยล่าสุดวันนี้ตนเห็นหลานชายออกจากห้องนอน มาดื่มน้ำเมื่อช่วงเวลาประมาณ 14.30น. จากนั้นก็เห็นหลานชายเข้าห้องไปประมาณ30นาที ได้ยินเสียงดังขึ้นในห้อง จึงได้เปิดประตูเข้าไปดู พบว่าหลานชายของตนใช้เชือกไนล่อน ผูกคอตาย

จากนั้นตนไปเอามีดในครัว มาทำการตัดเชือก นำร่างหลานชายลงมาไว้บนเตียงนอน แล้ววิ่งออกมาหน้าบ้าน ร้องขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน ก่อนแจ้งหน้าที่มาทำการช่วยเหลือยื้อชีวิตหลานชายสุดที่รักเอาไว้ แต่แล้วก็ไม่สามารถช่วยไว้ได้ทันดังกล่าว โดยหลานชายคนนี้ตนเลี้ยงมาตั้งแต่เด็กอยู่กับตนมาตลอด หลังจากติดต่อแม่ของหลานชายได้ ก็ได้เดินทางมาดู พร้อมกับกอดศพลูกชายเป็นครั้งสุดท้าย 

พ.ต.ท.แดนชัย มูลป้อม สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี จากการตรวจสอบไม่พบร่องรอยของการต่อสู้หรือถูกทำร้าย เสียชีวิตมาแล้วประมาณ30นาที ซึ่งสอบถามญาติ ทราบว่าผู้ตายเป็นคนเงียบๆไม่ค่อยออกมาจากบ้าน แต่จะมีอาการกลัวและละแวง จนต้องให้เข้าไปในนอนในห้องกับตา แต่อยู่ในการดูแลของตากับยาย ก่อนหน้าไม่ได้บ่นอะไรให้ญาติฟัง  คาดว่าอาจจะหลอน ก็เลยใช้เชือกผูกคอตายเอง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงลงบันทึกไว้เป็นหลักฐานและทางญาติไม่ติดใจในการเสียชีวิต จึงได้มอบมอบศพให้นำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป

ภาพ / ข่าว : ทีมข่าวคลิ๊กนิวส์ จ.อุดรธานี