จากกรณีเมื่อวันที่ 11 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุการณ์เศร้ากับวงการเพลงไทยอีกครั้ง เมื่อ นายธนัท ฉิมท้วม หรือ ”โจ บอยสเก๊าท์” นักร้องบอยแบนด์ยุค 90 ที่หัวใจวายเฉียบพลันขณะเล่นคอนเสิร์ตเมื่อกลางดึกของวันเดียวกัน ที่ร้านคัลเลอร์บาร์ โดยก่อนหน้านี้ ต๊ะ บอยสเก๊าท์ ได้ออกมาเผยว่า ช่วงเวลานั้นเป็นช่วงขณะเล่นเพลงที่ 15 คือเพลง “เกรงใจ” พอร้องจบก็กำลังจะพูดลาและส่งเข้าเพลงสุดท้าย แต่โจก็มาล้มฟุบลงไปก่อน ซึ่งก่อนหน้าจะล้มคือเป็นชุดเพลงเร็วเพลงเต้นทั้งหมด 4 เพลงรวดปิดท้ายก่อนจะจบคอนเสิร์ต
อย่างไรก็ตามต๊ะ เผยต่อว่า ขณะที่โจล้มลงไปตนคิดว่าเป็นมุขเนื่องจากตอนนั้นมีน้องผู้หญิงขึ้นมาบนเวทีด้วย แต่พอหันไปอีกทีเริ่มรู้สึกว่าไม่ใช่มุขแล้ว เพราะไม่ลุกขึ้นมาสักที ตนจึงเดินเข้าไปดูใกล้ๆ ตอนนั้นอาการเริ่มออกแล้วคือตาเหลือก เกร็ง ชัก และน้ำลายฟูมปาก ซึ่งขณะนั้นตนเองก็ทำอะไรไม่ถูก และไม่มีความรู้ด้านการทำcpr หลังจากนั้นได้มีคนเสนอว่าเป็นหมอพอจะช่วยได้ แต่ขณะนั้นทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากรวมทั้งรถพยาบาลมาถึงช้า ท่าที่ได้คุยกับคุณหมอบอกว่าถ้าจะกระตุ้นด้วยการชอร์ตให้กลับมา ก็มีสิทธิยื้อชีวิตได้ แต่สมองไปหมดแล้วเพราะขาดอากาศหายใจไปนาน แต่ทีนี้พอกระตุ้นแล้วมันไม่มาเพราะกล้ามเนื้อหัวใจของเขาไม่ตอบสนอง สรุปสาเหตุที่ทำให้โจเสียชีวิตคุณหมอบอกว่าเป็นเพราะกล้ามเนื้อหัวใจล้มเหลว อย่างไรก็ตามตนเองก็ไม่ทราบมาก่อนว่าเพื่อนมีโรคประจำตัวเพราะโจไม่เคยเล่า จะทราบก็เพียงโรคกระเพาะที่นานๆเป็นที
ส่วนที่มีกระแสข่าวออกมาว่า ต๊ะ และ บุ๋ม แฟนสาวได้พา โจ ไปดูหมอและโดนทักให้บวชไม่นั้นจะตาย จริงหรือไม่เนื่องจากประเด็นดังกล่าวกลายเป็นกระแสที่ถูกพูดถึงในโลกออนไลน์อยู่ขณะนี้ โดยเรื่องนี้ ต๊ะ เผยว่า โจเป็นคนเล่าเอง ซึ่งบุ๋ย ภรรยาของต๊ะถามว่า เคยบวชมาหรือยัง โจได้เล่าว่า ที่ต้องบวชอีกครั้งเพราะมีพระหรือหมอดูทักว่าหากไม่บวชจะต้องมีอันเป็นไปถึงชีวิต ซึ่งจากตอนนั้นมาก็ประมาณ 2-3ปีแล้ว โดยเพื่อนๆเองก็ไม่ได้สนใจเรื่องตรงนี้ เพราะยังเห็นแข็งแรงอยู่ แต่ก็เป็นไปได้เพราะเป็นเรื่องของหัวใจ เป็นเรื่องอาการป่วย
ขอบคุณข้อมูล ข่าวสด