เมื่อเวลา 00.10 น.วันที่ 20 สค.60  นายประเมษฐ์ โภคบุตร์ ปลัดความมั่นคง อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร  รับแจ้งจาก นาย วีระวัฒน์ ปราดเปรื่อง ผญบ.หมุ่ที่ 7 ต.ตะโก อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร ว่า มีชาวต่างด้าวจำนวนมาก ซุกซ่อนในสวนป่า หลังบ้านเลขที่ 21/7 หมุ่ที่ 7 ต.ตะโก จึงรีบแจ้งไป ยัง ร.ต.อ.สันติ มณีรัตน์ รองสารวัตร ตม.ชุมพร นำกำลังเดินทางมาที่บ้านหลังดังกล่าว 

ที่บ้านของนายทวี ดำชาวเกาะ อายุ 70 ปี เจ้าของบ้าน  พบว่าที่บริเวณหน้าบ้านมี กลุ่มคนทั้งชายและ หญิง จำนวนมาก ทั้งหมดเป็นแรงงานชาวเมียร์มาร์ แยกเป็น ชาย40 คน หญิง 8 คน ทั้งหมด อยู่ในช่วงอายุ 20-30 ปี ทุกคนต่างมีสิ่งของเครื่องใช้ประจำตัว ทั้ง เสื้อผ้า เครื่องครัว ติดตัวมาเป็นจำนวนมาก แต่ละคนมีหน้าตาที่อิดโรย ซีดเซียว หวาดกลัวมาก      นายวีระวัฒน์ ผญบ. เล่าว่า ในช่วงเย็นวันนี้มีชาวบ้านในหมู่บ้านแจ้งว่า มีคนจำนวนมาก หลบซ่อนในสวนป่า หลังบ้านนายทวี จึงไปตรวจสอบพบว่าเป็นคนงานชาวเมียรมาร์  แต่แทบไม่มีใครพูดภาษาไทยได้ จึงได้พยายามหว่านล้อมให้ มานั่งหน้าบ้านของนายทวี แล้ว รายงานไปยัง นายประเมษฐ์ ปลัดอำเภอทุ่งตะโก  ตรวจสอบเบื้องต้น ทุกคนมีพาสปอต การเข้าเมืองถูกต้อง

    
ต่อมา ร.ต.อ.สันติ ได้นำล่าม มาช่วยแปลภาษา ได้การว่า "กลุ่มคนทั้งหมด เดินทางเข้าเมืองไทย มา นานกว่า20 วัน โดยมีนายหน้าค้าแรงงานเถื่อนนำมาส่งให้ ที่ โรงงานรับซื้อ และ แปรรูปทุเรียนแห่งหนึ่ง ใน อ.ทุ่งตะโก  มีเจ้าของโรงเป็นชาวจีน เป็นโรงงานขนาดใหญ่มีเนื้อที่หลายสิบไร่  ตั้งอยู่ริมถนนสายเอเชีย 41 ขาขึ้น กทม.โดยชาวเมียร์ม่ารทั้งหมด เข้าทำงานในโรงงานทุเรียนของชาวจีน ได้ค่าจ้าง วันละ 300 กว่าบาท แล้วแต่ หน้าที่ รวม ค่าล่วงเวลาแล้ว ถึง 400 บาท โรงงานมีที่พักให้พร้อมเสร็จ "

    
ในเวลา04.30 น.วันที่ 19 สค. เจ้าของโรงงานได้เรียก คนงานทั้ง 48 คน มารับค่าจ้างที่เหลือ แล้วไล่ออกจากโรงงานทันที ถ้าใครไม่ออกจากพื้นที่โรงงานจะแจ้งตำรวจจับข้อหาบุกรุก ทำเอาคนงานทั้งหมด ต่างพากันไปเอาของใช้ส่วนตัวต่างๆในห้องพักแทบไม่ทัน โดยที่เจ้าของโรงงานไม่ได้บอกเหตุผลใดๆ     คนงานทั้งหมด จึงพากันเดินเท้าไปริมถนนเอเชีย41 เมื่อเดินไปได้ร่วม 2 กม. ก็ เริ่มเข้าสู่เวลาเช้า ทั้งหมดกลัวจะถูกตำรวจจับจึงพากันเช้าไปหลบซ่อนในสวนป่า หลังบ้านดังกล่าว จนกระทั่งมี ชาวบ้านไปพบในช่วงเย็น โดยตลอดเวลาทั้งวัน คนทั้ง 48 คน ไม่มีใครได้กินอาหารเลย แต่ด้วยความกลัว และไปไหนไม่ถูก เนื่องจากพึ่งมาอยู่ใน เมืองไทยได้ไม่กี่วันจึงต้องยอมซ่อนตัวในป่า 

ต่อนายณรงค์ พลละเอียด ผวจ.ชุมพร ทราบเรื่อง สั่งการให้ นางสาววัลลภา แก้วสวี พมจ.ชุมพร และ นางพวงเพ็ญ ใจกว้าง หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัว เดินทางมาให้ความช่วยเหลือ  ร่วมกับนายทวี เจ้าของบ้านจัดหาอาหารให้กับคนงานต่างด้าวได้กิน ท่ามกลางความดีใจของคนเหล่านั้น 

    
จนท.ทั้งหมด พยายามติดต่อไปยัง เจ้าของ โรงงานที่เป็นชาวจีน เพื่อขอให้ใช้ บ้านพักคนงานเป็นที่พักพิงชั่วคราวให้กับคนงานทั้งหมด แต่ได้รับการปฏิเสธ นางสาววัลภา จึงตัดสินใจนำคนงานทั้งหมดไปพักที่ ว่าการอำเภอทุ่งตะโก ก่อนจะดำเนินการต่อไป

    
ร.ต.อ.สันติ มณีรัตน์ รองสารวัตร ตม.ชุมพร กล่าวว่า คนทั้งหมด สามารถอยู่ในเมืองไทยต่อไปได้ เนื่องจาก มีหนังสือเดินทาง ในเรื่องของการทำงาน เป็นหน้าที่ของ หน่วยงานจัดหางาน ถ้า ไมได้จดทะเบียนถูกต้องตาม กม.ก็ ไม่สามารถทำได้ เมื่อหมดเวลาตาม หนังสือเดินทางก็ ต้องเดินทางกลับประเทศ”

    
ส่วนเหตุผลที่ โรงงานทุเรียนต้องไล่แรงงานต่างด้าวเหล่านี้ออกจาก โรงงาน คนงานไทยในโรงงานดังกล่าว(ขอสงวนชื่อ) เล่าให้ ฟังงว่า "ก็เพราะว่า โรงงานเพิ่งได้รับโควตา แรงงานต่างด้าวที่มีการจดทะเบียนเรียบร้อยแล้ว แต่แรงงานกลุ่มนี้เป็นแรงงานที่ผิดกฎหมาย ถ้าถูกจับได้ ก็จะถูกลงโทษอย่างหนัก ตามกฎหมายใหม่ อีกทั้ง ถ้านำไปจดทะเบียนก็ต้องจ่ายเงินก้อนอีกจำนวนหนึ่ง จึงต้องไล่แรงงานต่างด้าวเหล่านี้ ออกจากโรงงานอย่างไร้มนุษยธรรม โดยที่ไม่สนใจว่า แรงงานเหล่านี้ จะเป็นตายร้ายดีอย่างไรหรือจะหาที่พักหรือหาอาหารกินได้ที่ไหนบ้าง  ข่าวดังกล่าวสร้างความหดหู่ใจแก่ชาวบ้าน ใน ย่านดังกล่าวมาก ต่างกล่าวว่า ถึงแม้จะเป็นคนต่างด้าวแต่ก็เป็นมนุษย์ด้วยกัน การกระทำของเจ้าของโรงงานจะทำให้ เสียชื่อเสียงประเทศมาก

 ภาพ / ข่าว : ทีมข่าวคลิ๊กนิวส์ จ.ชุมพร