เพียงแค่คิด..ก็ติด HIV!!  เรื่องเล่ากระทู้ดัง ประสบการณ์จริงที่เขาคงไม่มีวันลืมเลยชั่วชีวิต

เพียงแค่คิด..ก็ติด HIV!! เรื่องเล่ากระทู้ดัง ประสบการณ์จริงที่เขาคงไม่มีวันลืมเลยชั่วชีวิต


สืบเนื่องจากกระทู้ดัง พันทิป ได้มีการตั้งกระทู้ เล่าประสบการณ์ว่าตนเองได้ติดเชื้อ HIV หรือ เอดส์ เจ้าของเรื่องที่ได้นำเรื่องราวมาแบ่งปันให้เรานั้น เป็นเพศที่สาม แต่เรื่องของโรคติดต่อ ไม่ว่าเพศไหน อายุเท่าไหร่ จะรวยจน นักศึกษา หรือยาจก โรคมันก็ไม่เลือกหรอกค่ะ หากเราไม่ดูแลตัวเอง หรือคิดเพียงแค่ไม่เป็นไร ครั้งเดียว ของแบบนี้ เกิดขึ้นแล้ว มันแก้ไขลำบาก จึงอยากเอามาให้อ่านไว้เป็นอุทาหรณ์ ในการใช้ชีวิตกันค่ะ


สวัสดีเพื่อนๆในพันทิปทุกคนครับ ผมเป็นคนหนึ่งที่เคยคิดว่า การเป็น HIV นั้นช่างห่างไกลเหลือเกิน และไม่น่าจะเป็นได้ เพราะดูแลตัวเองอย่างดีมาโดยตลอด บอกก่อนนะครับว่าผมเป็นเพศทางเลือก (เกย์) ก็อาจจะมีความเสี่ยงที่สูงกว่าคนทั่วไป การใช้ชีวิตของผมอยู่ในร่องในรอยมาตั้งแต่เล็กจนโตเลยครับ จนวันหนึ่งที่เทคโนโลยีก้าวเข้ามา ทำให้เราได้เปิดหูเปิดตามากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะแอพพลิเคชั่นสังคมออนไลน์ ชาวสีม่วงคงรู้จักกันดีนะครับ อย่างแอพ แจ็ค.... , ทิน..... , กริน...... , บลู....... , ฮอ....... และอีกสารพัดแอพที่ทำให้เราก้าวเข้าใกล้ความเสี่ยงมากยิ่งขึ้น จริงไม่โทษแอพเหล่านี้เลยครับ ออกจะโทษตัวเองเสียมากกว่า ที่หลงระเริงกับความสุขชั่วคราว จนทำให้เราได้โรคประจำตัวเพิ่มมาอีกหนึ่งโรค 


เข้าเรื่องเลยดีกว่าครับ ผมเล่นสมาร์ทโฟน กับแอพเหล่านี้มาหลายปี นัดเจอบ้าง คุยกันบ้าง มีเพศสัมพันธ์บ้างเป็นครั้งคราว แต่ทุกครั้งจะต้องป้องกัน (ลืมบอกไปผมเป็นฝ่ายรับ) ผมจะซีเรียสมากเรื่องของการป้องกัน อย่างถุงยางอนามัย ทุกครั้งที่จะมีอะไรกัน หากฝ่ายรุกไม่มีถุงยาง ผมจะไม่มีอะไรด้วยเด็ดขาด อาจเป็นเพียงออรัลเซ็กส์ หรือ ต่างฝ่ายต่างช่วยตัวเอง (ที่มักเรียกกันว่าภายนอก) เป็นแบบนี้อยู่หลายปีครับ ผมก็ตรวจเลือดสม่ำเสมอ ทุกๆครั้งคือปลอดภัย และนี่แหละครับที่ทำให้เราชะล่าใจ

เข้าเรื่องเลยดีกว่าครับ จนวันหนึ่งผมเดินทางไปทำงานที่ ตจว. แล้วมีคนทักมาในแอพพลิเคชั่น ก็คุยกัน คืนนั้นเขายืนยันจะมาหา ผมก็ให้เขามา เขามาด้วยอาการที่มึนเมา และตกลงว่าจะภายนอกกันเท่านั้น ฝ่ายรุกตกลงกับผมเรียบร้อย ในระหว่างที่เรากำลังบรรเลงเพลงรักอย่างสนุกสนาน เขาจับผมหันหลังแล้วก็สอดใส่อวัยวะเพศเข้าไป ผมตกใจมาก ผลักออก เขายืนยันว่านั่นคือนิ้วมือ ตอนแรกผมก็จะปิดจ็อบไล่เขากลับไปแล้ว แต่ด้วยเพราะความคิดว่าไม่น่าจะมีอะไร ก็เลยทำให้เลยเถิด เขามีอะไรกับผมโดยไม่สวมถุงยางอนามัย และหลั่งนอก

เช้ามาผมไม่สบายใจมากๆ ก็โทรไปที่คอลเซนเตอร์เพื่อปรึกษาว่ามีหนทางในการแก้ปัญหาอย่างไรได้บ้าง คอลเซนเตอร์ก็แนะนำให้ไปรับยาเพรพ เพื่อป้องกันโอกาสเสี่ยงที่สูงนี้ก่อนจะสายเกินแก้ แต่ด้วยผมยังคงต้องทำงาน และไม่มีเวลา บวกรวมกับความคิดที่ว่า ไม่น่าจะเป็นอะไร ทำให้เกิดความชะล่าใจ



และเมื่อวานนี้ ผมไปทำการตรวจเลือดที่คลีนิกนิรนาม และผลคือว่า พบเชื้อ HIV ในร่างกาย วินาทีนั้นบอกตรงๆว่าตกใจ คิดว่าผลเลือดสลับหรือเปล่า? แบบในละคร แต่คุณหมอยืนยันว่าทำการตรวจซ้ำถึงสามรอบ ตอนนั้นบอกเลยครับ หน้าชา แต่ไม่ได้ร้องไห้ฟูมฟาย เพราะคิดเสมอว่าทุกอย่างมีเหตุ และผล เราเป็นคนทำให้เหตุเกิดขึ้น ผลที่ตามมาจึงเป็นแบบนี้ ดังนั้นต้องยอมรับ และเดินหน้าต่อไป หลังจากผลออกแล้ว คุณหมอก็ให้ตรวจ CD4 และพาผมไปพบกับพี่ๆเจ้าหน้าที่ ที่ให้คำปรึกษา และร่วมพูดคุยกัน ผมบอกเลยนะครับ ตั้งแต่วินาทีที่รู้ผล จนถึงตอนนั่งคุย น้ำตาไม่ไหลสักนิด แต่พอพี่เจ้าหน้าที่ถามว่า กังวลใจเรื่องอะไรมากที่สุด แน่นอนครับผมตอบไปว่า เรื่องพ่อแม่ เท่านั้นแหละครับ น้ำตาไหลพรากเลย เราปรับทุกข์กันอยู่นาน ก่อนที่ผมจะเดินทางกลับบ้าน
   
ระหว่างที่เดินทางกลับบ้าน ก็คิดว่าจะเอาอย่างไรต่อไป !! บอกตรงๆเรื่องโรคไม่กลัวครับ ผมพร้อมที่จะอยู่กับมัน คิดแค่ว่าต้องดูแลตัวเองดีๆ และคิดเพียงว่ามันก็คือโรคติดตัวเพิ่มเข้ามา เหมือนกับภูมิแพ้ (ผมเป็นโรคภูมิแพ้อยู่) แต่สิ่งที่คิดไม่ตก คือ เราจะบอกพ่อแม่อย่างไร ? จะบอกตอนไหน ? ผมปรึกษาพี่เจ้าหน้าที่ พี่เขาน่ารักมาก บอกว่าให้ผมบอกเมื่อสภาพจิตใจพร้อม เชื่อว่าที่บ้านต้องเข้าใจ ณ เวลานั้น ผมคิดตลอดเอาอย่างไรดี บอกเมื่อไหร่ดี ? 1 2 หรือ 3 ปี เนื่องด้วยที่บ้านก็ไม่รู้ว่าผมเป็นเกย์ แล้วอยู่ๆจะมาบอกว่ามีเชื้ออีก ยากแน่ๆ แต่เมื่อถึงบ้าน ไม่รู้อะไรดลใจ ผมเรียกแม่มาคุยในห้อง และบอกความจริงทั้งหมด ว่าเกิดอะไรขึ้น ตอนแรกที่คิดว่าแม่จะโกรธ จะว่า จะโมโห ไม่มีเลยครับ ผมร้องไห้กอดแม่ แม่ไม่ร้องไห้สักนิด แม่ผมเข้มแข็งมาก แม่กอดและปลอบผม โดยคำพูดของแม่คือ มันผ่านมาแล้ว ดูแลตัวเองดีๆ ลูกแม่จะต้องหาย ทั้งๆที่แม่ก็รู้ว่าไม่มีทางหาย แต่แม่ก็ปลอบผมเพื่อให้ผมสบายใจ ผมเสียใจมากที่ทำให้แม่ต้องผิดหวัง ผมทั้งกอด ทั้งกราบเท้าแม่ด้วยสำนึกผิด หากผมอยู่ในลู่ในทางที่แม่วางไว้ คงไม่มีเหตุการณ์อย่างในวันนี้ เหตุการณ์ที่ไม่เคยคิดว่าจะเกิดขึ้นกับผม
   
แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมรีบบอกความจริงกับแม่ เพราะผมไม่อยากปิดบังครับ หากมีเหตุฉุกเฉิน หรือเรื่องของการดูแลตัวเองต่างๆ อย่างน้อยแม่ก็รับรู้ และอยู่ข้างๆผม ตอนนี้ผมรอผลตรวจ CD4 ครับ ก่อนจะนำผล และหนังสือส่งตัวเข้ารับการรักษาต่อไป เหตุการณ์จากวันที่มีเพศสัมพันธ์ จนถึงวันนี้ ประมาณแค่เดือนกว่า เท่านั้นเอง ผมโชคดีมากครับที่รู้ตัวเร็ว อย่างที่บอกไปว่าผมตรวจเลือดสม่ำเสมอ นี่ถือเป็นข้อดีอย่างหนึ่งที่อยากฝากเอาไว้ครับ
   
สุดท้ายที่ผมมาแชร์เรื่องราวนี้กับทุกคน อยากให้เก็บไว้เป็นอุททาหรณ์ โดยเฉพาะเพศทางเลือก หรือแม้แต่ชายจริง หญิงแท้ อย่า "เพียงแค่คิด...ว่าไม่เป็นไร" สุดท้ายจะเสียใจตลอดชีวิตนะครับ ป้องกันเถอะครับ ปฎิเสธเถอะครับ เพื่อตัวเราไม่ใช่ตัวใคร และสิ่งหนึ่งที่ผมอยากบอกคือ ผมแข็งแรงมากนะครับ ทั้งกาย ทั้งใจ ผมพิมพ์บทความนี้ ในขณะที่ฝันร้ายผ่านมาแค่หนึ่งวัน ตอนนี้ก็รอแค่ผล CD4 แล้วก็จะนำไปหาแนวทางในการรักษาตัวต่อไป ผมอยากฝากเรื่องราวนี้ไว้เพื่อให้ทุกคนย้ำเตือนในใจก่อนสายเกินแก้นะครับ


ขอบคุณ พันทิป


หมายเหตุ : ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา
 






ติดต่อ โฆษณา

Contact : Click Marketting -

Clicknews-tv.net