สะเทือนใจ "น้องแมนยู" เด็กแขนขาด พ้อจะเอาแขนที่ไหนเขียนหนังสือ และดูแลแม่

สะเทือนใจ "น้องแมนยู" เด็กแขนขาด พ้อจะเอาแขนที่ไหนเขียนหนังสือ และดูแลแม่


จากกรณี ด.ช.ธีรศักดิ์ วรรณไชย “น้องแมนยู” เด็กชาย 9 ขวบ ชาว ต.นาดินดำ อ.เมือง จ.เลย พิการตาข้างซ้ายบอด เด็กดี กตัญญู แต่ฐานะยากจน แม่พิการตาบอด ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์พี่ชายไปตลาดซื้อกับข้าวให้แม่ แต่รถเกิดอุบัติเหตุชนท้ายรถเก๋ง ทำให้กระเด็นตกรถ ไปกระแทกกับรั้วเหล็กฉากแขนขาด เมื่อเย็นวันที่ 2 ตุลาคม  2563 พลเมืองดีเก็บแขนที่ขาด และนำน้องแมนยูส่งโรงพยาบาลเมืองเลย และส่งมาต่อแขนที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี แต่ไม่มีเงินค่ารักษาพยาบาล ญาติได้โพสต์เฟซบุ๊ก ทำให้มีผู้ใจบุญบริจากช่วยเหลือน้องแมนยู 1,195,710.50 บาท  ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น


ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว วันที่ 6 ตุลาคม 2563เวลา 13.00 น.  นางคำหล้า วรรณไชย อายุ 43 ปี แม่น้องแมนยู และ น.ส.กิริตากร มะระครอง อายุ 28 ปี ผู้ช่วยเหลือน้องแมนยู และโพสต์เฟซบุ๊กจนได้รับความช่วยเหลือ พร้อมญาติพี่น้องได้เดินทางมาโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี เพื่อเยี่ยมน้องแมนยู ซึ่งรักษาตัวอยู่ที่ห้องไอซียู โดย นางคำหล้า ซึ่งตาบอดทั้งสองข้าง เล่าว่า ตนพิการตาบอดตั้งแต่กำเนิด ส่วนสามีพิการหูหนวก รับจ้างกรีดยาง มีฐานะยากจน  มีลูกด้วยกัน 2 คน คนโตเป็นผู้ชายอายุ 14 ปี ไม่ได้เรียนหนังสือ ออกมาทำงานรับจ้าง ส่วนน้องแมนยูเป็นคนเล็ก เรียนชั้น ป.3 เป็นเด็กดี กตัญญู เป็นห่วงพ่อแม่  แรกเกิดน้องแมนยูเป็นเด็กปกติ แต่พิการเพราะตอนเรียนอนุบาลถูกเพื่อนยิงหนังสติกใส่จนตาซ้ายบอด หลังลูกเกิดอุบัติเหตุจนแขนซ้ายขาด รู้สึกตกใจ เสียใจ แต่มีใจที่มีผู้บริจาคช่วยเหลือน้องแมนยู ขอขอบคุณทุกคนที่ช่วยเหลือ

น.ส.กิริตากร มะระครอง อายุ 28 ปี เจ้าหน้าที่ธุรการ รพ.สต.นาดินดำ ผู้ช่วยเหลือน้องแมนยู และโพสต์เฟซบุ๊กจนมีผู้เข้ามาช่วยเหลือน้องแมนยู เปิดเผยว่า สาเหตุที่ตนโพสต์เฟซบุ๊ก เพราะหลังจากนำน้องแมนยูมาส่งโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานีแล้ว ได้รับใบแจ้งรายการค่ารักษารวม รวมเป็นเงิน 116,941 บาท ทำให้ตนตกใจ จึงเดินไปแผนกตรวจสอบสิทธิการรักษา ได้รับคำตอบว่า ถ้ารถจักรยานยนต์ที่น้องแมนยูซ้อนท้าย มี พรบ. สามารถใช้สิทธิในการรักษาได้ แต่ถ้าไม่มีก็ต้องจ่ายเงินค่ารักษาเอง หรือหากรถคู่กรณีผิด ก็ใช้ พรบ.ของคู่กรณีในการรักษา แต่ผลลทางคดียังไม่ชี้ว่าใครถูกหรือผิด จึงต้องจ่ายเงินค่ารักษาเอง  จึงโทรหากองทุน คปภ. (สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ) ให้เงินช่วยเหลือก่อน 3 หมื่นบาท แต่ถ้าทางกฎหมายชี้ว่าน้องแมนยูผิดก็ต้องหาเงินคืน คปภ. จึงคิดหนัก



ด้วยความตกใจและกังวลเรื่องฐานะทางบ้านน้องแมนยูยากจน จะหาเงินที่ไหนมาจ่ายค่ารักษาน้อง และหาเงินมาคืนกองทุน คปภ.  จึงโพสต์ลงเฟซบุ๊กว่า ค่ารักษาจำนวนมากจะมีหน่วยไหนช่วยเหลือน้องแมนยูได้ แต่ไม่ได้มีจุดประสงค์ขอรับบริจาค แต่ก็มีการแชร์โพสต์ออกไป จึงมีคนบริจาคช่วยน้องจำนวนมาก แต่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี ก็รักษาน้องแมนยูด้วยสิทธิ์บัตรทองแล้ว ซึ่งตนไม่มีเจตนาทำให้โรงพยาบาลเสียหายแต่อย่างใด หากให้เข้าใจผิดก็ขอโทษด้วย ตนได้ลบโพสต์แล้ว ส่วนคนที่แชร์โพสต์ของตนไปขอให้ดำเนินการลบเอง”

ตอนนี้ปิดบัญชีรับบริจาคทั้งหมดแล้ว เหลือบัญชีเดียวคือบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาเลย  หมายเลขบัญชี  4033013210  ชื่อบัญชี รับบริจาคช่วยเหลือ ด.ช.ธีรศักดิ์ วรรณไชย โรงเรียนบ้านหนองผำ ซึ่งทางโรงเรียนเปิดบัญชีให้ช่วยเหลือน้องแมนยู ยังเปิดรับบริจาคอยู่ เพื่อนำไปรักษาน้องแมนยูจนกว่าจะหาย

นางพรม วรรณไชย อายุ 55 ปี อาน้องแมนยู ซึ่งเป็นผู้ดูแลน้องแมนยูอยู่ที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี เปิดเผยว่า หลังจากถูกส่งตัวมาโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี และเข้ารับการผ่าตัดตั้งแต่มาถึงโรงพยาบาล ตนมีหน้าที่เฝ้าน้องแมนยูจนถึงวันนี้ เพราะพ่อแม่พิการเดินทางไม่สะดวก ตนได้เข้าเยี่ยมน้องแมนยูเช้า เที่ยง เย็น ซึ่งน้องแมนยูรู้สึกตัวดี มีการพูดคุยตอบโต้ได้ บอกเจ็บแผล รับประทานอาหารที่โรงพยาบาลจัดให้ และขอดื่มน้ำได้ ถามถึงแม่และบ่นว่า “จะเอาแขนที่ไหนเขียนหนังสือ และดูแลแม่”  ซึ่งตนก็ได้ปลอบใจหลาน หมอต่อให้แล้ว ให้อยู่กับอา แม่มองไม่เห็นมาดูแลไม่ได้ โดยรวมแล้วอาการน้องแมนยูดีขึ้น ขอให้ได้บุญทุกคนๆ

นางคำหล้า วรรณไชย อายุ 43 ปี แม่น้องแมนยู ได้บอกว่า ขอขอบคุณ คนที่มาช่วยเหลือ รวมถึงคนที่บริจาคเงินมาให้ หากไม่มีใครมาช่วยเหลือไม่รู้ว่าจะหาเงินที่ไหนมารักษาลูก ส่วนดวงตาของตนบอดมาตั้งเกิด โดยน้องแมนยู เป็นเด็กดี ทำงานบ้านและทำกับข้าวให้แม่กินทุกวัน เวลาแม่ไปไหนลูกจะจูงมือแม่พาไป ส่วนดวงตาข้างซ้ายของน้องแมนยูบอดนั้นเป็นเพราะถูกยิงของหนังสติ๊กยิง ตั้งแต่อนุบาล โดยแม่ได้พูดคุยกับน้องแมนยูแล้ว เขารู้สึกตัวอาการดีขึ้นมา ถามหาทุกคน อยู่ไหน  แล้วบ่นว่าเจ็บแผล ซึ่งตนก็ให้กำลังใจลูกชาย ให้หายเร็วๆ อยู่กับอา หรือพยาบาล ก่อนนะลูก  ในวันเกิดเหตุ น้องแมนยูบอกว่าจะไม่ไปโรงเรียน จะไปทำบุญที่วัด  เพราะปกติลูกชายชอบไปทำบุญที่วัด ซึ่งหลวงตาอยู่วัดก็ยังสอบถามหาน้องแมนยู ว่าเป็นเช่นไรบ้าง ในตอนนี้

ภาพ / ข่าว : ผู้สื่อข่าวคลิ๊กนิวส์ จ.อุดรธานี
 






ติดต่อ โฆษณา

Contact : Click Marketting -

Clicknews-tv.net