จากกรณีเมื่อวันที่ 20 ส.ค. ที่ผ่านมา มีคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์เข้าไปก่อเหตุใช้อาวุธปืนจี้ชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อ 7-11 คืนเดียวถึง 3 สาขา ประกอบด้วยสาขาตลาดบึงพระ หมู่ 3 ต.บึงพระ อ.เมืองพิษณุโลก สาขาแยกสกัดน้ำมัน หมู่ 2 ต.ท่าโพธิ์ อ.เมืองพิษณุโลก และสาขามหาวิทยาลัยนเรศวร ประตู 1 หมู่ 9 ต.ท่าโพธิ์ อ.เมืองพิษณุโลก ได้เงินรวมกันไปเกือบ 5,000 บาท ซึ่งหลังเกิดเหตุได้หลบหนีไปกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนติดตามจนสามารถจับกุมตัวเอาได้ขณะกบดานอยู่ที่บ้านญาติใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 23 ส.ค. พล.ต.ต.ถาวร  แสงฤทธิ์ ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก พร้อมด้วย พ.ต.อ.นฤชา  สุวรรณลาภา รอง ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก พ.ต.อ.สมพร  ทองรอด รอง ผบก.สส.ภ.6 พ.ต.อ.ทรงพล  สังข์เกษม ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก และกำลังตำรวจชุดสืบสวนทั้งในและนอกเครื่องแบบได้ควบคุมตัวนายอาณุพงษ์  ครองธัญญา อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3 หมู่ 3 ต.บึงพระ อ.เมืองพิษณุโลก ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดพิษณุโลกที่ 271/62 , 272/62 , 273/62 ลงวันที่ 22 ส.ค. ในความผิดฐานชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธโดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิ๊ก 125 สีแดง-ดำ ทะเบียน 1 กฌ 2928 อุบลราชธานี เงินสดจำนวน 2,120 บาท หมวกกันน็อคสีดำจำนวน 1 ใบ รองเท้าผ้าใบ 1 คู่ โดยนำตัวพามาทำแผนประกอบรับคำสารภาพยังจุดแรกที่ร้านค้าสะดวกซื้อ 7-11 สาขาตลาดบึงพระ โดยมีบรรดาชาวบ้านในพื้นที่ที่ทราบข่าวต่างเดินทางมาเฝ้ารอดูกันเป็นจำนวนมาก โดยเจ้าหน้าที่ได้นำตัวไปชี้จุดที่ลงมือก่อเหตุภายในร้านดังกล่าวขณะที่พนักงานหญิงสาวกำลังยืนอยู่บริเวณเคาน์เตอร์ จากนั้นคนร้ายได้ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดที่หน้าร้านก่อนจะเข้าไปใช้อาวุธปืนที่พกมาด้วยข่มขู่ให้เกรงกลัวแล้วบังคับชิงเงินไปจำนวน 3,520 บาท ซึ่งจุดแรกใช้เวลาทำแผนประมาณ 10 นาที จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนต่อยังร้านสะดวกซื้อ 7-11 สาขาแยกสกัดน้ำมัน ซึ่งคนร้ายได้เงินไปจำนวน 700 บาท และที่สุดท้ายร้านสะดวกซื้อ 7-11 สาขามหาวิทยาลัยนเรศวร ประตู 1 คนร้ายก่อเหตุในลักษณะเดียวกันได้เงินไปจำนวนกว่า 1,000 บาท แต่สุดท้ายก็ไปไม่รอดถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายได้ในที่สุด

เบื้องต้น นายอาณุพงษ์  ครองธัญญา ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า สาเหตุที่ลงมือก่อเหตุนั้นเนื่องจากตกงานและไม่มีเงิน จึงตัดสินใจเข้าไปก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อ 7-11 ที่อยู่ใกล้บ้าน โดยปืนที่ใช้ก่อเหตุนั้นเป็นปืนบีบีกันต้องการข่มขู่ให้พนักงานเกรงกลัวเท่านั้น และนำไปโยนทิ้งบริเวณอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ ระหว่างหลบหนีไปหาครอบครัวที่ จ.ขอนแก่น ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อทั้งหมด ซึ่งอยู่ระหว่างเช็คประวัติการก่อเหตุอาชญากรรมว่าเคยไปก่อเหตุลักษณะนี้ที่ใดมาก่อนหรือไม่ ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนแจ้งความดำเนินคดีต่อไป

ด้าน พล.ต.ต.ถาวร  แสงฤทธิ์ ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก กล่าวว่า คดีนี้เป็นที่สนใจของพี่น้องประชาชนเนื่องจากคนร้ายลงมืออย่างอุกอาจคืนเดียวออกจี้ชิงทรัพย์ในร้านสะดวกซื้อ 7-11 ในพื้นที่ อ.เมืองพิษณุโลก ถึง 3 แห่ง หลังเกิดเหตุได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่หาข่าวและหาเบาะแสของคนร้ายรายนี้ อีกทั้งทางสื่อมวลชนได้มีการนำเสนอข่าวทำให้ประชาชนซึ่งเป็นพลเมืองดีแจ้งมายังเจ้าหน้าที่ตำรวจจนสามารถจับกุมตัวเอาไว้ได้ นอกจากนี้ได้สั่งกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจเพิ่มวงรอบในการออกตรวจในพื้นที่สุ่มเสี่ยงในช่วงยามค่ำคืนเพื่อเป็นการป้องกันเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นอีกด้วย

ภาพ / ข่าว : ผู้สื่อข่าวคลิ๊กนิวส์ จ.พิษณุโลก